หุ้นท่องเที่ยวยังเหลืออัพไซด์แค่ไหน ? หลังท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เริ่มดีขึ้นเห็นจากยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแตะระดับหลักล้านต่อเดือนได้อีกครั้ง ซึ่งข้อมูลล่าสุดนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ส.ค. 65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 4,635,418 คน
.
ซึ่งหากเปรียบเทียบข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนเกิดโควิด-19 จะพบว่ายอดตัวเลขในแต่ละเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับเดือนละกว่า 3 ล้านคน ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันอาจต้องใช้เวลา แต่ทิศทางจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยททท.คาดการณ์ว่าครึ่งหลังปี 65 (ก.ค.-ธ.ค.) ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 64 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 7.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1,840% สร้างรายได้ 4.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,113%
.
และจากประเด็นดังกล่าวส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวชัดเจน โดยมุมมองของนักวิเคราะห์แต่ละรายยังคงแนะนำให้ซื้อหุ้นกลุ่มนี้ โดย "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงได้รวบรวมข้อมูลหุ้นแนะนำ รวมถึงราคาเป้าหมายและอัพไซด์ จากโบรกเกอร์ต่างๆ ดังนี้
.
โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ดาโอ ให้นักหนักกลุ่มท่องเที่ยว "มากกว่าตลาด" โดย ชอบ CENTEL เพราะได้ประโยชน์ทั้งจากธุรกิจโรงแรมที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด , ERW ชอบเพราะเป็น Pure hotel ครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัวได้ดีรับไฮซีซั่นของไทย และได้รับผลประโยชน์สูงที่สุด เพราะมีสัดส่วนโรงแรมในประเทศไทยสูงที่สุดในกลุ่มที่ 88% , AOT เนื่องจากจะได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนผู้โดยสารที่ฟื้นตัว และ BAFS ได้อานิสงส์จากจำนวนเที่ยวบินและปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น
.
บล. ยูโอบี เคย์เฮียน มองว่าหุ้นโรงแรมใหญ่ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับก่อนสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ซึ่งหากลงทุนแนะนำหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม ได้แก่ SPA , VRANDA นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในอดีตก่อนโควิด-19 ทั้ง 2 มีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนต่อเงินลงทุน(ROIC) สูงกว่าหุ้นท่องเที่ยวโดยรวม
.
บล.เคจีไอ ยังคงคาดการณ์กลุ่มนักท่องเที่ยวปี 2566 ที่ 25 ล้านคน โดยมองว่าจากประเด็นโรงแรมในยุโรปอาจเผชิญความไม่แน่นอนด้านต้นทุน หลังจากรับความตึงเครียดด้านการเมือง อีกทั้งคาดว่านักท่องเที่ยวจีนชอบประเทศไทย จึงมองว่าหุ้นโรงแรมยังได้รับอานิสงส์ดังกล่าว โดยแนะนำ ERW , CENTEL และ SHR
.
และบล.บัวหลวง จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการผ่อนคลายเกณฑ์การเข้าประเทศและขยายระยะเวลาให้เป็น 45 วัน จากเดิม 30 วัน (สำหรับนักท่องเที่ยว Visa ปกติ และเป็น 30 วันจากเดิม 15 วันสำหรับ on-arrival-visa) อีกทั้งทางการยังได้ผ่อนเกณฑ์เปิดบาร์ถึงตี 4 (เดิมตี 2) สำหรับ 8 เมืองท่องเที่ยวหลักด้วย ส่วนการกลับมาของธุรกิจ MICE (ประชุมสัมนา) เราคาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยมาเพิ่มการเติบโตต่อในไตรมาส 4/65 โดยเฉพาะช่วงที่มีประชุม APEC ให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” แนะนำซื้อทั้ง AOT , MINT , CENTEL , ERW, AWC


***********************************