ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามและเอาใจช่วย สำหรับภาวะซบเซาของตลาดรถอีวีทั่วโลก

.
เพราะนอกจากฉุดให้การเปลี่ยนผ่านจากรถสันดาปใช้น้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมช้ากว่าที่คาดกันไว้แล้ว ยังทำให้บริษัททั้งค่ายรถและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างต้องหาทางประคองตัวเพื่อฝ่าวิกฤต
.
วิกฤตดังกล่าวเกินกว่าที่บริษัทผู้ผลิตแบตฯ รถอีวียุโรปจะรับไหวจนนำมาสู่การปิดฉากไปพร้อมดับฝันลดพึ่งพาจีน เพราะนี่คือบริษัทที่เคยเป็นตัวละครสำคัญและความหวังอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งทวีป
.
ความสนใจของเรื่องนี้ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะนี่คือบริษัทที่มีประวัติเชื่อมโยงกับค่ายรถอีวีอันดับต้น ๆ ของโลกสัญชาติอเมริกัน และมีทั้งยักษ์ยานยนต์กับยักษ์การเงินหนุนหลัง
.
ปีเตอร์ คาร์ลสัน และ เปาโล เซอร์รุตติ อดีตผู้บริหารของ Tesla ในแผนกซัปพลายเชนและวางปฏิบัติการตามลำดับ จับมือกันตั้งบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถอีวีขึ้นในสวีเดน ภายใต้ชื่อ SGF Energy ในปี 2015 แต่ช่วงแรกบริษัทยังเป็นแค่บริษัทแบบสตาร์ตอัปที่แทบไม่มีใครรู้จัก
.
สถานการณ์ของบริษัทเริ่มดีขึ้นในปี 2017 หลังเปลี่ยนชื่อเป็น Northvolt อันหมายถึงบริษัทไฟฟ้าทางเหนือ โยงกับประเทศแถบยุโรปเหนือ ฐานการผลิตหลังท่ามกลางอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปและทั่วโลกเริ่มหันมาผลิตรถอีวีกันอย่างจริงจัง
.
ปี 2019 Northvolt เริ่มเป็นที่จับตามองแวดวงยานยนต์ยุโรป หลังได้เงินลงทุนจากทั้ง 2 ค่ายรถใหญ่อย่าง BMW และ Volkswagen กับ 2 สถาบันการเงินใหญ่อย่างธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป และ Goldman Sachs วาณิชธนกิจเบอร์ต้น ๆ ของสหรัฐฯ เป็นเงินรวมเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 33,000 ล้านบาท)
.
นี่จึงหมายความว่า ความหวังของค่ายรถยุโรปที่จะลดการพึ่งพาผู้ผลิตแบตฯ อีวีจีน รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อาจเป็นจริงได้
.
Northvolt ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2021-2023 ได้เปิดโรงงานในสหรัฐฯ และซื้อสตาร์ตอัปเทคโนโลยีแบตฯ แคนาดา ตามแผนรุกทวีปอเมริกา
.
ณ จุดนี้ทำให้กลายเป็นองค์กรใหญ่ มีโรงงานหลายแห่งทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ พร้อมพนักงานในความดูแลเพิ่มหลายพันคน
.
ท่ามกลางเสียงเตือนด้วยความกังวลจากคนในวงการยานยนต์ยุโรปว่า เร่งขยายโรงงานเร็วไปหรือไม่ เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างความต้องการแบตฯ รถอีวีลดตามตลาดรถอีวีที่หดตัวขึ้นมา อาจทำให้บริษัทเผชิญวิกฤต
.
โชคร้ายที่เสียงเตือนดังกล่าวเป็นจริง โดยปี 2024 ตลาดรถอีวียุโรปเกิดชะลอตัวตามตลาดโลก หลังเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อของผู้บริโภคจึงต้องใช้อย่างประหยัด
.
ซ้ำร้ายการขยายจุดชาร์จทั่วยุโรปก็เป็นไปอย่างล่าช้า แล้วยุโรปยังเผชิญปัญหาการลำเลียงสินค้าและซัปพลายเชน จากผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอีก
.
สถานการณ์ในตลาดรถอีวียุโรปเลวร้ายลงไปอีก หลังรัฐบาลประเทศใหญ่และสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเยอรมนี ลดเงินสนับสนุนอุตสาหกรรมรถอีวี
.
พอช่วงปลายปี 2024 ตลาดรถอีวียุโรปก็ทรุดทั้งระบบ โดยเมื่อยอดขายลด พี่ใหญ่อย่าง Volkswagen ก็ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ในรอบหลายปี กระทบถึงบริษัทที่เกี่ยวเนื่องมากมาย ไล่ตั้งแต่อุตสาหกรรมเหล็ก ไปจนถึงอะไหล่รถยนต์
.
Northvolt ที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถอีวีด้วย จึงได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ไปเต็ม ๆ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวในไตรมาสสุดท้ายปี 2024 ที่ชี้ว่าบริษัทมีแต่ทรุด ๆ กับทรุด และกำลังนับถอยหลังสู่จุดจบ เช่น การปลดพนักงาน 1,600 คน ปิดโรงงานในยุโรป
.
ตามด้วยปีกธุรกิจในสหรัฐฯ ล้มละลาย ทำให้ต้องยื่นขอศาลพิทักษ์ทรัพย์ และ ปีเตอร์ คาร์ลสัน ก็ประกาศลาออกจากซีอีโอ ต้องให้ประธานบอร์ดบริหารขึ้นมารักษาการแทน
.
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า สารพิษจากโรงงานสวีเดนใกล้แถบอาร์กติกรั่วไหล ทำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสียอีก
.
Northvolt เคยตั้งเป้าไว้ว่า จะทำให้น้ำมันกลายเป็นเพียงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ทว่าบริษัทกำลังกลายเป็นเพียงเรื่องประวัติศาสตร์เข้าเสียเอง โดยจากขาลงตลาดรถอีวีและปัญหาต่าง ๆ ที่รุมล้อม Northvolt ก็ประกาศล้มละลายในสวีเดน ประเทศฐานการผลิตหลักและสำนักงานใหญ่ เมื่อ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
.
การประกาศล้มละลายครั้งนี้ ทำให้ Northvolt ปิดฉากลงหลังอยู่มาได้เพียง 10 ปี และพนักงาน Northvolt ที่เหลืออีกราว 5,000 คนต้องตกงาน
.
สื่อยุโรปรายงานว่า Northvolt มีหนี้ก้อนใหญ่ และจะได้มีการตั้งทรัสตีขึ้นมาดูแลการขายบริษัทหรือธุรกิจต่าง ๆ ออกไปเพื่อใช้หนี้
.
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือ บริษัทไหนจะมาซื้อกิจการ Northvolt โดยหากเป็นบริษัทยุโรปด้วยกัน แผนในการยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองและลดการพึ่งพาจีนของบริษัทยานยนต์ยุโรปก็จะได้เดินหน้าต่อไป
.
ส่วนถ้าบริษัทหรือกลุ่มทุนยุโรปกำลังไม่พอ Northvolt อาจตกไปเป็นของบริษัทหรือกลุ่มทุนนอกยุโรป ที่มีทั้งตะวันออกกลาง สหรัฐฯ หรือแม้กระทั่งจีน ก็เป็นได้
*****
(ที่มา : theguardian, wikipedia)