COM7 ถือตั้งแต่ต้นปี ติดดอยสูงเฉียด 60%
โบรกฯ แทงสวน เชียร์ “ซื้อ” เป้าหมาย 45 บาท
มองราคาหุ้นอยู่ในจุดที่มีความน่าสนใจ

.
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 หนึ่งในหุ้นดวงใจและหุ้นช้ำใจของใครหลายคน เพราะด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2565) ราว 59.94% หรือราคาหุ้นลงมาอยู่ที่ 32.75 บาทต่อหุ้น
.
โดยสาเหตุของการปรับตัวลงของราคาหุ้นที่ทุกวันนี้เองก็ยังหาจุดสิ้นสุดไม่ได้นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากความกังวลของภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ และตัวเลขเงินเฟ้อที่เป็นตัวฉุดรั้งกำลังซื้อให้ต้องชะลอตัวลง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อกำลังซื้อชะลอกลุ่มสินค้าที่ต้องได้รับผลกระทบเป็นอย่างก็คือ สินค้าสิ้นเปลือง
.
ด้วยปัจจัยดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนถึงผลประกอบการของ COM7 ในอนาคตว่าจะมีทิศทางเป็นเช่นไร แต่ภายใต้ความกลัวนี้ก็ยังมีนักลงทุนตั้งคำถามขึ้นว่า หากภาพรวมทุกอย่างเกิดการกลับหัว ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาจะเป็นโอกาสให้ลงทุนได้หรือไม่ ทาง Wealthy Thai จึงอยากจะพานักลงทุนไปหาคำตอบกันในครั้งนี้
.
บทวิเคราะห์จากบล.ธนชาต ได้ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 41 บาท เนื่องจากบริษัทยังมีปัจจัยบวกหลายอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น EPS ที่จะเติบโตดีเฉลี่ย 3 ปีที่ 22% ในปี 2567 การเติบโตมีรากฐานที่แข็งแกร่งจากขนาดธุรกิจ เป็นร้านเครือข่ายไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยแนวคิดร้านที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้ได้รับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และมีอัตรากำไรสูงสุด (อัตรากำไรสุทธิ 4.9%) ในอุตสาหกรรม
.
ขณะเดียวกันเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้สูงโดยมี ROE ที่ 49% ในปี 2567 และสุดท้ายด้วยการเติบโตและ ROE ดังกล่าว ทำให้ COM7 มีมูลค่าไม่แพงสำหรับเราหรือที่ระดับ PE 20 เท่าในปี 2566 จึงมองว่าเป็นมูลค่าของราคาหุ้นอยู่ในจุดที่มีความน่าสนใจ
.
ด้านยอดขายไตรมาส 4/65 จะสามารถเติบโตในระดับเลขสองหลัก จากไตรมาส 4/64 และกำไรอยู่ที่ 1.03 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 42% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งคาดการณ์ดังกล่าวได้รวมผลกระทบจากการหยุดชะงักของอุปทานจากการล็อกดาวน์และคลายล็อกดาวน์ของจีนแล้ว
.
โดยปกติแล้วไตรมาส 4 จะเป็นฤดูกาลการใช้จ่ายของปีและไตรมาส 4/64 ของ COM7 ก็มีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เชื่อว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ไอทีนั้นเริ่มมีเสถียรภาพและยังคงได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มต่อเนื่องตามจำนวนสาขา ซึ่งบริษัทมีสาขา 1,000 แห่ง ณ สิ้นปี 2564 และเปิดสาขาใหม่สุทธิ 113 แห่งใน 9 เดือนแรกปี 2565 ซึ่งมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 47 สาขา ในไตรมาส 4/65 จึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 2/3/4% ในช่วงปี 2565-2567
.
ด้านบล.พาย ให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 45 บาท เนื่องจากกำไรปกติไตรมาส 3/65 ที่สูงกว่าคาด 7%นับเป็นการยืนยันภาพรวมเชิงบวกสำหรับ COM7 ในปี 2566 ด้วยแรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยที่สูงขึ้น ,การครอบครองมือถือ 5G ที่สูงขึ้น และการเดินหน้าขยายสาขา 150 แห่งตามแผนต่อเนื่อง (ปี 2565 ขยายไปแล้ว 113 สาขา)
.
อย่างไรก็แนวโน้มดีผลประกอบการไตรมาส 4/65 จะโตเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าแต่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการขาดแคลน iPhone 14 จากการล็อกดาวน์โรงงาน Foxconn ในจีน โดยทาง Apple ประกาศว่าลูกค้าต้องรอสินค้านานกว่าคาด ส่วน Reuters รายงานว่าการผลิต iPhone 14 อาจลดลง 30%
.
แต่เชื่อว่าอุปสงค์จะยังมีอยู่และได้รับการเติมเต็มในไตรมาส 1/66 แทน เพราะที่ผ่านมามือถือรุ่น iPhone ได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด เมื่ออิงข้อมูลจาก Canalys การส่งมอบสมาร์ทโฟนของ Apple ทั่วโลกนั้นโต 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในไตรมาส 3/65 ส่วนคู่แข่งอย่าง Samsung มีการส่งมอบลดลง 8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน