5 หุ้นเด่นน่าซื้อหรือไม่ ?
เมื่อ NVDR ซื้อ 5 วันติด มูลค่าทะลุ 4.3 พันล้านบาท

.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำการลงทุนว่าให้นักลงทุนจับตา 5 หุ้นเด่นที่กำลังเป็นเป้าหมายเม็ดเงินการลงทุนจาก NVDR จำนวน 5 หลักทรัพย์ ซึ่งโดยข้อมูลย้อนหลังพบว่า จำนวน 5 หุ้นดังกล่าวมีแรงซื้อจาก NVDR มาแล้ว 5 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ถึง 16 ก.ย.65
.
โดย 5 หุ้นที่มีจำนวนยอด NVDR ซื้อสุทธิสะสมเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วันทำการได้แก่ TLI-KTB-KBANK-TRUE และ IVL ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่ากลุ่มหุ้นดังกล่าวมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
.
อย่างเช่นหุ้น TLI ปัจจัยบวกหลักๆมาจากการปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย และแนวโน้มของผลตอบแทนพันธมิตร 10ปี ของสหรัฐและของไทยอยู่ในระดับสูง จากนี้จะต้องจับตาว่าทิศทางของราคาจะขยับต่อเนื่องได้อีกหรือไม่
.
ขณะที่ KTB ย้อนหลังในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมาสัญญาณจาก NVDR ซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่ระดับหลัก 100- 230 ล้านบาท ด้าน KBANK มียอดการซื้อจาก NVDR ต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
.
สำหรับปัจจัยบวกหลักๆที่ทำให้ NVDR เข้ามาซื้อสะสมนั้น เป็นเพราะการปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ย และแนวโน้มของผลตอบแทนพันธมิตร 10ปี ของสหรัฐและของไทยอยู่ในระดับสูง ซึ่งเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับสูงจะส่งผลให้มีเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาเก็งกำไร
.
ด้าน TRUE มีปัจจัยบวกจากการเข้ามาเก็งรับประเด็นผลการควบรวมกันระหว่าง TRUE กับ DTAC ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ดังนั้นจึงถือเป็นอีกหุ้นที่น่าสนใจ ส่วน IVL ถึงแม้ว่าจะมียอดซื้อสะสมเข้ามาไม่มาก แต่แนะนำนักลงทุนควรจับตาดู หากเป็นนักลงทุนที่พิจารณาข้อมูลจากยอดการลงทุนจาก NVDR
.
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูล มูลค่าการซื้อสะสมของ NVDR ในช่วง 5 วันทำการย้อนหลังที่ผ่านมาพบว่าหุ้น TLI มียอดซื้อสะสม 5 วันทำการรวมกว่า 1,330 ล้านบาท ขณะที่ KTB พบว่ามียอดซื้อสะสมจาก NVDR ที่ 467 ล้านบาท และทาง KBANK มียอดซื้อสะสมจำนวน 680 ล้านบาท ส่วน TRUE มีจำนวน 1,433 ล้านบาท ขณะที่ IVL กำลังมียอดทยอยซื้อสุทธิ จากNVDR ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา จำนวน 398 ล้านบาท
.
สำหรับในมุมพื้นฐานของหุ้นกลุ่มดังกล่าวเริ่มกันที่ TLI บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ TLI ที่ 20.1 บาท/หุ้น คิดเป็น P/EV ที่ 1.4x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยบริษัทประกันชีวิตในเอเชีย โดย TLI มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไทย
.
ขณะเดียวกัน คาดว่าแนวโน้ม อัตรากำไรของธุรกิจใหม่ VONB margin เฉลี่ยที่ราว 48% ใน 65-67 เทียบกับปี 63 ที่อยู่ในระดับแค่เพียง17.3% เพราะ TLI เน้นผ่านช่องทางตัวแทนเป็นหลัก ซึ่งเป็นช่องทางที่มี VONB margin สูงกว่าธนาคาร
.
ด้าน KTB บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่า การที่ KTB ปรับพอร์ตสินเชื่อเน้นสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสินเชื่อ อิงกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ดังนั้น การที่ดอกเบี้ยเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นจะทำให้ธนาคารสามารถปรับราคา yield สินเชื่อเพิ่ม เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นได้
.
ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/2566 ขึ้นอีก 11%/15% เพื่อสะท้อนถึงการปรับสมมติฐาน 1) credit cost ปี 2565/2566 ลดลงเหลือปีละ 85bps (จาก 100bps) 2) NIM เพิ่มขึ้น 5bps/7bps และ เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 18.80 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 17 บาท
.
ส่วน IVL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี คาดว่าปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้น 6% ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จากการเปิดโรงงาน EO และ PTA หนึ่งเดือนสองครั้ง ช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้น คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยจะส่งผลต่ออุปสงค์ PET ไม่มากนัก เพราะ PET เป็นสินค้าจำเป็น ราคาเป้าหมายของเราที่ 60 บาท