ห้องเม่าปีกเหล็ก

YLG เตือนนักลงทุนทองคำอย่าไล่ราคา

โดย ร้อยแปดพันก้าว
เผยแพร่ :
107 views

YLG เตือนนักลงทุนทองคำอย่าไล่ราคา

หวั่นถูกแรงขาย เหตุมีอัพไซด์จำกัด

หลังราคาตลาดโลกพุ่งแตะ 1,800 เหรียญ

.

ราคาทองคำสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หลังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ที่คลายความกังวลจากหลากปัจจัย เช่น ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค., เงินเฟ้อของสหรัฐอาจ “ผ่านจุดสูงสุด” ไปแล้ว, ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐจาก ISM ปรับตัวสู่ระดับ 49.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 และถ้อยแถลงของนางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ที่กล่าวว่า เฟดควร “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อประเมินผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ย

.

โดยสถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว และกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2565 ที่ 104.56 และผลักดันให้ราคาทองทำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

.

นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด ให้มุมมองว่า นับเป็นสัญญาณที่ตลาดให้ความสนใจ เพราะนักลงทุนเชื่อว่าหากตัวเลขตลาดแรงงานปรับตัวลงจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปด้วย หรือว่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยเลยก็เป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อ

.

ขณะที่ทิศทางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง เป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาระดับหนึ่ง ดังนั้นต้องรอตัวเลขภาคการจ้างงาน หากมีสัญญาณของการปรับตัวลงจริง อาจทำให้การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนธ.ค. 2565 น่าจะมีการส่งสัญญาณในลักษณะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจส่งสัญญาณของการคลายความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในอนาคต ด้วยการกำหนดอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยนโยบาย

.

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะลดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2566 อาจเกิดภาวะถดถอย ซึ่งจะทำให้เฟดลดความวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ หลังแนวโน้วเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงแล้ว หากตัวเลขการจ้างงานชะลอตัวตามไปด้วย เฟดน่าจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยได้แล้ว ดังนั้นหากมีสัญญาณในลักษณะดังกล่าวจริง ก็มองว่าจะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้

.

ในทางตรงกันข้าม หากตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรได้เหมือนกัน เพราะหากย้อนดูสถิติ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาสูงกว่าคาดการณ์เกือบทุกครั้ง ซึ่งประเด็นนี้ทำให้นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนด้วย

.

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นประเด็นหลักที่ทำให้การลงทุนทองคำในช่วงนี้ยากลำบาก เพราะราคาทองคำแท่ง 96.5% ซึ่งเป็นราคาเงินบาท แทบจะไม่ได้มีการขยับขึ้นตามราคาทองคำต่างประเทศเลย ซึ่งค่าเงินบาทมีโอกาสที่จะผันผวนและแข็งค่าต่อตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยที่อยู่ในขาขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566

.

ดังนั้นปัจจัยนี้จึงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณา เพราะหากเห็นราคาทองคำขึ้นแรง ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า อาจทำให้มีแรงซื้อทองคำในประเทศกลับเข้ามา เพราะราคาทองคำที่แกว่งอยู่ในกรอบ 29,400-29,450 บาทต่อบาททองคำ ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และเมื่อมีแรงซื้อในฝั่งของลูกค้าเข้ามา ร้านทองก็จำเป็นต้องไปซื้อทองในส่วนของต่างประเทศ จึงนับเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาทองคำให้อ่อนตัวหรือย่อตัวลงในระดับจำกัด

.

ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็มีสัญญาณของการอ่อนค่าออกมา ทำให้ราคาทองคำต่างประเทศขยับขึ้นได้ค่อนข้างแรง แต่แนวโน้มของค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศอาจจะปิดลบในสัปดาห์นี้ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

.

สำหรับคำแนะนำการลงทุน แนะนำให้ดู Gold Spot เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่แนะนำให้ไล่ซื้อ เพราะแนวโน้มราคาทองคำแท่งเป็นการปรับขึ้นในระดับจำกัด ซึ่ง YLG ให้จุดสูงสุดของเดือนพ.ย. 2565 ที่ 1,807 – 1,806 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,799 – 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ มีช่องว่างให้ราคาขยับขึ้นไม่มาก โดยบริเวณ 1,833-1,854 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์ เป็นระดับสูงสุดของรอบที่ผ่านมา ทำให้อาจเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับกลับลงมาในระดับที่ค่อนข้างสูง

.

ดังนั้นนักลงทุนอาจอาศัยจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัวลงมาในการเข้า ซื้อ โดยประเมินแนวต้านที่ระดับ 1,820 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนต้องพิจาณาประกอบกับการประชุมของเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. 2565 เพราะก่อนการประชุมราคาทองคำมักจะทรงตัวและรักษาระดับเอาไว้ ดังนั้นแม้ว่าแนวโน้มราคาทองค่อยๆขยับขึ้นในช่วงนี้ แต่แนวต้านด้านล่างอยู่ไม่ไกล ดังนั้นอาจมีแรงขายทำกำไรในช่วงสั้นสลับกลับมาลง แนะนำให้หาจังหวะที่ราคาทองคำย่อตัว เข้าซื้อ เพื่อเล่นสั้นๆ และขายทำกำไรในกรอบแนวต้ายที่ให้ไว้

.

ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในประเทศยังทรงตัวอยู่ในกรอบ 29,500 -29,600 บาทต่อบาททองคำ จากการแข็งค่าของค่าเงินบาท สวนทางกับราคาทองคำในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยคาดว่าสิ้นปีนี้อาจเห็นความต้องการซื้อทองคำเพื่อเก็บสะสม หรือซื้อเพื่อเป็นของขวัญภายในประเทศลดลงกว่าปีที่ผ่านมา จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ และความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้คนนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยในส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นมากกว่าการนำเงินมาออมทองคำ อย่างไรก็ตาม ประเมินราคาทองคำในประเทศอาจยืนอยู่ในระดับดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565 หากไม่มีปัจจัยสำคัญเข้ามากระทบ

 

 


ร้อยแปดพันก้าว