ห้องเม่าปีกเหล็ก

ถือ RATCH จากต้นปีราคายังติดลบ 22%

โดย BUDDY
เผยแพร่ :
692 views

ถือ RATCH จากต้นปีราคายังติดลบ 22%

นักวิเคราะห์ฯ แนะนำทั้ง “ซื้อ” และ “ถือ”

รับผลงานปีหน้าเติบโตก้าวกระโดด

.

ธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคที่มีความต้องการใช้จากผู้บริโภคค่อนข้างสูง จึงทำให้ในแง่ของลงทุนเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความน่าสนใจทั้งในรูปแบบการลงทุนเพื่อหวังการเติบโตและรูปแบบการลงทุนเพื่อแสวงหาผลตอบแทนจากเงินปันผล

.

แต่จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากทาง Wealthy Thai พบว่าในช่วงที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโรงไฟฟ้า ก็ได้ถูกกดดันด้วยปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ, ค่าft และนโยบายของภาครัฐ จึงทำให้ราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวลดลง

.

โดยหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่างบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 13 กันยายน 2566) ก็ได้ปรับตัวลดลง 22.81% หรือลงมาอยู่ที่ระดับราคา 33 บาท แต่การปรับตัวลงในครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ลงทุนได้หรือไม่นั้น เราจะพาไปดูคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญกัน

.

บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 54.50 บาท โดยผู้ที่ยังไม่มีหุ้นให้รอซื้อ เมื่อประกาศความสำเร็จซื้อ Paiton เสร็จสิ้นก่อน โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นตัวหนุนให้กำไรในปี 2567 ให้โตก้าวกระโดดหรือราว 49% จากปีก่อนหน้า และเข้ามาทดแทนกำไรโรงไฟฟ้า RG ที่ทยอยหมดอายุในปี 2568 - 2570

.

ทั้งนี้ ยังคงมุมมองกำไรในไตรมาส 3/66 จะลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสามีการปิดซ่อมตามแผนและโรงไฟฟ้า Hydro ปริมาณน้ำลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คาดว่าจะลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากกำไรโรงไฟฟ้า Hydro ที่ฟื้นตัว หลังเข้าสู่ไฮซีซั่น ยังไม่สามารถชดเชยการปิดซ่อมของโรงไฟฟ้าหงสาได้

.

ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 39 บาท เนื่องจากดีล Paiton ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน จึงอาจทำให้นักลงทุนที่มองหาการเติบโตอาจจะไม่เข้าลงทุน แต่อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากเงินปันผล ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงและราคาหุ้นถูก

.

สำหรับกำไรครึ่งปีหลังปี 2566 คาดว่าจะแผ่วลงจากครึ่งปีแรกปี 2566 เนื่องจากยังไม่มีการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการ Paiton ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 3/66 คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (PNPC, NN2) แต่จะได้รับค่า AP จาก RG ลดลง และจะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสาตามแผน ในขณะเดียวกันคาดว่ากำไรในไตรมาส 4/66 จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล อย่างเช่น SG&A, การปิดซ่อมบำรุงตามแผน, และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าลดลง

 

 


BUDDY