ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะลึก “หุ้น” ในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว

โดย ROE
เผยแพร่ :
64 views

เจาะลึก “หุ้น” ในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว

“ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว” ถือเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยไม่แพ้ธุรกิจประเภทอื่น แม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศหรือเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ธุรกิจการท่องเที่ยวยังถือว่าเป็นธุรกิจที่สามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถพยุงและผลักดัน GDP ให้มีการเติบโตได้อย่างทุกปี

หากมองลึกลงไปอีก ธุรกิจการท่องเที่ยวอาจจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจย่อยต่างๆ ได้แก่ (1) ธุรกิจเกี่ยวกับสนามบิน (2) ธุรกิจเกี่ยวกับสายการบิน และ (3) ธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากธุรกิจการเติบโตซึ่งเป็นภาพใหญ่เติบโตเพิ่มขึ้น ธุรกิจย่อยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้รับอานิสงค์ให้มีการเติบโตไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในสถาณการณ์โลกแห่งความเป็นจริง จะเห็นได้ว่า แม้ธุรกิจการท่องเที่ยวจะมีการเติบโตขึ้นทุกปี โดยสังเกตได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น หุ้นในแต่ละธุรกิจย่อยก็ไม่ได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นั่นแสดงให้เห็นว่า นอกจากปัจจัยการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ที่ส่งผลต่อหุ้นในแต่ละกลุ่มที่ไม่เหมือนกัน

หากแบ่งการวิเคราะห์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “ธุรกิจการท่องเที่ยว” สามารถแบ่งการวิเคราะห์ตามกลุ่มธุรกิจย่อยต่างๆ ดังนี้

1. ธุรกิจเกี่ยวกับสนามบิน หุ้นในกลุ่มนี้ มีเพียง AOT ที่เป็นเจ้าของสนามบินหลายแห่งในประเทศ โดยเฉพาะสนามบินหลักๆ อย่าง สุวรรณภูมิ และดอนเมือง รายได้ของหุ้นกลุ่มนี้ หลักๆ มาจาก “ค่าธรรมเนียม” ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเครื่องบิน ดังนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของบริษัท จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า

  • จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2562 – 2563 จะมีการเติบโตที่ 6.3% และ 6.1% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ขณะนักท่องเที่ยวในประเทศยังไม่ได้เติบโตมากนัก
  • ได้รับอานิสงค์จากนโยบายของภาครัฐ ในการงดเก็บค่าธรรมเนียม Visas on arrival ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเติบโตของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก
  • บริษัท มีอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมผู้โดยสารสำหรับนักท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็น (1) นักท่องในระหว่างประเทศที่ 700 บาทต่อคน และ (2) นักท่องเที่ยวในประเทศที่ระดับ 100 บาทต่อคน

2. ธุรกิจเกี่ยวกับสายการบิน แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น แต่ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้เติบโตตาม อันเนื่องมากจากปัจจัยอื่นๆ ที่มากระทบ ยกตัวอย่างเช่น

  • ต้นทุนหลักอย่าง “ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง” เป็นปัจจัยที่กระทบกับหุ้นกลุ่มนี้อย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2562 ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากถึง 30% นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายสายการบินได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนที่สูงมากขึ้น
  • การแข่งขันตัดราคาอย่างรุนแรง ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า สายการบินต่างๆ ได้ปรับลดราคาตั๋วเครื่องบินเพื่อดึงดูดผู้โดยสารมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสายการบิน Low Cost ที่เสนอโปรโมชั่นลดราคาพร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ผู้โดยสาร เป็นผลให้รายได้ของแต่ละสายการบินลดลง

กลุ่มนี้มีอยู่หลายตัวเช่น THAI, NOK, AAV และ BA

3. ธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรม กลุ่มธุรกิจโรงแรมยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากการเปิดตัวโรงแรมใหม่ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจนี้ไม่ได้มีการเติบโตในเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น หลายบริษัทได้ขยายธุรกิจไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการกระจายการลงทุนในธุรกิจให้มากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยประเทศที่ไปลงทุนและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม

หุ้นในกลุ่มนี้ประกอบด้วย MINT, ERW และ CENTEL

โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ส่งผลต่อการเติบโตในธุริกิจย่อยต่างๆ ได้ไม่เหมือนกัน ความเห็นของนักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หุ้นในกลุ่มสนามบินอย่าง AOT จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว และยังเป็นบริษัทที่ดำเนินการธุรกิจด้านนี้เพียงเจ้าเดียว ขณะที่หุ้นในสายการบิน ยังให้ติดตามการ “ราคาน้ำมัน” อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจ ส่วนหุ้นในกลุ่มโรงแรม แนะนำให้ถือ และพิจารณาเป็นรายตัวไป

ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย


ROE