อ่านตอนที่ 1 ได้ที่นี้ : มือใหม่เริ่มต้นลงทุนในหุ้นให้เป็นและอยู่รอดได้ (บันไดขั้นที่ 1)
สิ่งที่นักลงทุนต้องเข้าใจก่อนว่าวิธีการวิเคราะห์หุ้นนั้น ใหญ่ๆแล้วประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ วิเคราะห์พื้นฐานหุ้น และวิธีการใช้กราฟหุ้น เรามาพูดถึงส่วนแรกกันก่อนครับ คือ วิเคราะห์พื้นฐานหุ้น
ถ้าเราจะวิเคราะห์พิ้นฐานหุ้น สิ่งที่นักลงทุนต้องเป็นคือ "อ่านงบการเงิน" ที่เรียกได้ว่าปราบเซียน และทำให้หลายๆคนท้อมาแล้ว เพราะเรื่องบัญชีเป็นเรื่องตัวเลขที่เข้าใจยาก ซับซ้อนในเชิงวิชาการ ตีความได้หลายความหมาย โดยหลักใหญ่ๆแล้วงบการเงินจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ งบดุล งบกำไร-ขาดทุน และงบกระแสเงินสด
แต่เดี่ยวก่อน ... !! นักลงทุนมือใหม่ ยังไม่จำเป็นต้องอ่านงบการเงินเป็นครับ สิ่งแรกที่ควรทำคือ เข้าใจอัตราส่วนสำคัญทางการเงินก่อน ประกอบไปด้วย
P/E - บอกความถูกแพงของหุ้น ยิ่งสูงแปลว่ายิ่งแพง บางคนเรียกว่าค่า "ความคาดหวัง" ยิ่งสูงแสดงว่าหุ้นตัวนี้โดยคาดหวังว่าจะ "เติบโต" มาก
P/BV - ราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าทางบัญชีของหุ้น ยิ่งสูงแปลว่ายิ่งแพง
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน หรือ Dividend Yield - หุ้นจะจ่ายปันผลให้เราเท่าไร เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน ยิ่งสูงยิ่งดีROA, ROE - ศักยภาพการทำกำไรของกิจการ ยิ่งสูงยิ่งดี
อัตรากำไรสุทธิ หรือ Net Margin - คุณภาพของกำไรที่บริษัททำได้ ยิ่งสูงยิ่งดี
อย่างที่บอกไป คือนักลงทุนมือใหม่ ยังไม่จำเป็นต้องอ่านงบการเงินครับ ใช้วิธีคลุกคลีอยู่กับอัตราส่วนเหล่านี้บ่อยๆ มีความมุ่งมั่นที่อยากจะเข้าใจมากขึ้น วิธีอ่านงบการเงินจะเป็นเองครับ
อันดับต่อมา คือ วิธีการใช้บทวิเคราะห์ของโบรคเกอร์ เราสามารถหาโหลดมาอ่านกัน "ฟรีๆ" ได้ที่ https://www.settrade.com/C17_ResearchList.jsp
หลังจากโหลดมาอ่านแล้ว สิ่งที่นักลงทุนต้องเจอ คือ ตัวเลขจำนวนมากที่นักวิเคราะห์คาดการ ซึ่งอ่านแล้วจะไม่เข้าใจในตอนแรก ดังนั้น นักลงทุนมือใหม่ควรอ่านเพียง 3 ส่วน ครับ ประกอบไปด้วย
-- ส่วน "สรุป" - โดยส่วนใหญ่แล้วการสรุป จะอยู่บนสุดของบทวิเคราะห์ อ่านเพื่อให้รู้ว่านักวิเคราะห์กำลังพูดถึงประเด็นไหน และต้องการจะสื่ออะไรให้นักลงทุนทราย
-- หัวข้อใหญ่ในแต่ละย่อหน้า - ใน 1 บทวิเคราะห์จะประกอบไปด้วยหัวข้อใหญ่ประมาณ 3-4 หัวข้อ ให้นักลงทุนมือใหม่อ่านเฉพาะหัวข้อใหญ่ครับ ถ้าหัวข้อใหญ่ชัดเจนแล้ว เราอาจจะไม่จำเป็นต้องอ่านเนื้อหา แต่ถ้าหัวข้อใหญ่ไม่ชัดเจน เราอาจจะอ่านเนื้อหาบ้างเล็กน้อย
-- ราคาเป้าหมาย - ราคาเป้าหมายเป็นสิ่งที่ "ต้องดู" แต่ "อย่าเชื่อ" โดยปกติแล้วราคาเป้าหมายเกิดจากปัจจัยต่างๆที่ถูกใส่ลงไปในบทวิเคราะห์เพื่อให้เป็นราคาเป้าหมายของหุ้นนั้นๆ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนสูงมาก ดังนั้นนักลงทุนมือใหม่ดูเพื่อเปรียบเทียบกับราคาปัจจุบัน ว่าสูงกว่าหรือต่ำกว่ามากน้อยแค่ไหน แต่อย่าเชื่อไปทั้งหมดครับ
นี้ก็เป็นบันไดขั้นที่ 2 วิธีการใช้บทวิเคราะห์ และอัตราส่วนทางการเงินสำคัญสำหรับมือใหม่ครับ