จะเกิดอะไรขึ้น! เมื่อ “ฮุนได”
เตรียมตั้งฐานผลิต EV ในประเทศไทย
กูรู! ชี้ AMATA-WHA รับผลบวกเต็มสูบ

.
จากกระแสข่าว Hyundai Mobility บริษัทแม่จากแดนโสม เตรียมลุยตลาดไทยอย่างเต็มตัวเริ่ม 1 เม.ย. นี้ พร้อมเล็งขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ฮุนไดในไทย หลังถกบีโอไอ.เรียบร้อย โดยเน้นรถ EV อย่างเต็มตัว คาดรุ่นแรกที่ผลิตจะเป็น Hyundai IONIQ 5
.
ล่าสุดนักวิเคราะห์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมองว่า ประเด็น บริษัทแม่จากประเทศเกาหลีใต้ เตรียมลุยตลาดไทยอย่างเต็มตัวเริ่ม 1 เม.ย. นี้ พร้อมเล็งขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ฮุนไดในไทย หลังถกบีโอไอ.เรียบร้อย
.
โดย ทาง Hyundai มีการจดทะเบียนบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการผลิต/ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ ค้าส่ง/ปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ อะไหล่ ส่วนประกอบ อุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ทุกประเภท ซึ่งได้ถูกจดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 70.0 ล้านบาท ล่าสุดทางบริษัทได้ขยับเพิ่มทุนจดทะเบียนสู่ 601 ล้านบาท (อิงเวบไซด์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
.
ทั้งนี้ฝ่านวิจัยมองบวกต่อทิศทางดังกล่าว โดยการขยับตัวเพิ่มไลน์ผลิตรถยนต์ EV จากทั่วโลกมายังไทย ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ค่ายรถยนต์จีนและล่าสุด คือ Hyundai ตามข่าว โดยการเป็นฐานผลิตรถยนต์ EV คาดว่าจะนำมาสู่โอกาสเห็นการลงทุน Ecosystem ที่เกี่ยวข้องในระยะถัดไป
.
ส่วนทิศทางดังกล่าวสอดรับเป้าหมาย BOI ที่คาดยอดขอ BOI ปี 23 ที่ 5.0-6.0 แสนล้านบาท (vs ปี 22 ที่ 4.34 แสนล้านบาท) โดยทิศทางดังกล่าว ผสานกับโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากที่มีการลงทุนโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงมองเป็น Upside ระยะกลาง-ยาวเพิ่มเติมต่อหุ้นกลุ่มนิคม อาทิ AMATA WHA เสริมภาพระยะสั้นที่ได้ผลบวก Reopening และ Geopolitical Risk
.
ขณะที่ราคาหุ้นหลักในกลุ่มนิคม อาทิ AMATA WHA วันนี้เคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คาดว่าจะมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง
.
AMATA (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท) วางแนวรับ (19.7/19.5) แนวต้าน (20.7/21.0) Cut Loss 19.4 ส่วน WHA (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5 บาท) วางแนวรับ (3.86/3.80) แนวต้าน (4.1/4.22) Cut Loss 3.76