GPSC คาด 4Q66 ปานกลาง แต่จะฟื้นตัวในปี 2567

GPSC คาด 4Q66 ปานกลาง แต่จะฟื้นตัวในปี 2567

คาดกำไรสุทธิ 4Q66 จะอยู่ที่ 532 ลบ. พลิกมาเป็นกำไร YoY จากอัตรากำไรของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น แต่ลดลง QoQ จากค่า Ft ที่ลดลง

ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลง เรามองว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในแหล่งเอราวัณในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะช่วยลดการพึ่งพิงการนำเข้าก๊าซ LNG ซึ่งมีราคาแพงกว่าก๊าซในประเทศ นอกจากนี้ ราคาก๊าซ LNG ลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

โดยราคาปัจจุบันต่ำกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ MMBtu เทียบกับค่าเฉลี่ยในไตรมาส 4/2566 ที่ 15-16 ดอลลาร์ฯ/ MMBtu และสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณค่า Ft สำหรับเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ที่ 14.3 ดอลลาร์ฯ/ MMBtu ดังนั้นเราคาดว่าทั้ง 2 ปัจจัยจะทำให้ราคาต้นทุนก๊าซลดลง

แนวโน้มกำไร หากมองไปข้างหน้า เราคาดว่ากำไรของ GPSC จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยคาดว่าจะเติบโต 67% YoY เป็น 5.90 พันลบ. และจากการที่รายได้ประมาณ 25% มาจากการขายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม (Ft-link) GPSC คาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากต้นทุนก๊าซมีแนวโน้มที่จะลดลงเร็วกว่าค่า Ft

นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรยังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยหลายประการ รวมถึง 1) โรงไฟฟ้าพลังน้ำ XPCL ที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสู่ปรากฏการณ์ลานีญา 2) การทยอยเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการ Avaada 3) การ COD เต็มรูปแบบของโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง CFXD ในไต้หวัน (149 MWe) ในไตรมาส 1/2567

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่ม TP เป็น 60 บาท เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐานกำไรของเราจากอัตรากำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้นในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม