รองนายกฯ“สมคิด” ยืนยันฐานะการคลังไม่มีปัญหา บริหารจัดการได้ ด้านรัฐมนตรีคลัง แจงปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม-ลดเหลื่อมล้ำ ย้ำรัฐบาลไม่ได้ถังแตก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกถึง กรณีเงินคงคลังลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ เป็นแผนบริหารจัดการของ กระทรวงการคลัง เพราะรัฐบาลต้องการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินออกสู่ระบบโดยเร็ว ดังนั้นปริมาณเงินคงคลังจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการบริหารเงินของรัฐบาลในแต่ช่วงเวลา
ทั้งนี้ในช่วงเงินคงคลังเหลืออยู่ 15,000-20,000 ล้านบาท ก็ไม่เคยมีปัญหา เพราะสามารถบริหารจัดการได้ และแนวโน้มเงินภาษีหลายด้านเริ่มจัดเก็บเข้าคลังเพิ่มขึ้น จึงไม่น่ากังวล แต่การที่หลายฝ่ายตกใจเพราะเป็นประเด็นทางการเมือง
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ถังแตกจนต้องปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน แต่เงินคงคลังที่ลดลงเหลือราว 7 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นไปตามนโยบายที่มอบหมายให้กรมบัญชีกลางไปรักษาระดับเงินคงคลังให้อยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่จะรับได้ เพื่อ ประหยัดรายจ่ายด้านดอกเบี้ยจากที่ต้องกู้เงินคงคลังมาไว้ โดยที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันเงินคงคลังที่ระดับ 1 แสนล้านบาท มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยราว 2 พันล้านบาท
กรมบัญชีกลางจึงได้เสนอตัวเลข ออกมาว่า เงินคงคลังควรอยู่ที่ระดับ 50,000-100,000 ล้านบาท ดังนั้นระดับเงินคงคลัง 70,000 ล้านบาทไม่ถือว่าต่ำ และแม้จะต่ำกว่านี้ กระทรวงการคลัง ก็ยังมีวงเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อรักษาสภาพคล่องอีก 80,000 ล้านบาทที่ยังไม่ได้ใช้ และในปีงบที่ผ่านมาที่ขาดดุล 390,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการกู้จริงเพียงแสนล้านบาท ทำให้มีเงินกู้ในส่วนนี้อีกรวมแล้วมีเกือบ 300,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเพียงพอรองรับการใช้เงินของประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังเตรียมแก้กฎหมายเงินคงคลัง ในส่วนของการกู้เงินให้สามารถกู้ได้ตามความจำเป็น โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลาการกู้เงิน ส่วนการกู้เงิน Short term นั้น ก็จะกำหนดเพดานการกู้เงินให้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณในส่วนของภาษีที่จะนำมาใช้ในการบริหารจัดการเงินคงคลังได้
รัฐมนตรีคลังบอกอีกว่า แม้กระทรวงการคลังจะยืนยันว่าฐานะการคลังไม่ได้มีปัญหา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษีตัวอื่นๆ แต่การปรับขึ้นภาษีในแต่ละส่วนนั้น จะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสม เช่น การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินในครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นเพื่อสร้างความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากภาษีน้ำมันไม่ได้มีการปรับขึ้นมาหลายสิบปี ในขณะที่ภาษีน้ำมันประเภทอื่นมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า เงินคงคลังในระดับปัจจุบันไม่น่ากังวล ถือเป็นระดับปกติเนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมารัฐบาลเร่งเบิกจ่าย ขณะที่รายได้จัดเก็บภาษีจะเข้ามาช่วงเดือนมีนาคม และกรณีฉุกเฉินรัฐบาลก็สามารถกู้ยืมได้ จึงไม่น่าเป็นปัญหาและไม่มีผลต่อฐานะการคลังของประเทศ