เปิดโผ 17 หุ้นเด่น รับเฟดเร่งขึ้นดบ.-ลดขนาดงบดุล

ปัจจุบันภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมาให้น้ำหนักเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นอีกครั้ง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ในรอบที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ากรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนอย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.นี้ โดยถือเป็นการส่งสัญญาณการลดสภาพคล่องส่วนเกินที่เร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงกรรมการเฟดหลายคนยังสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวนหนึ่งหรือสองครั้งในการประชุมครั้งหน้า (รวมทั้งปีปรับขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้ง) หากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ตลาดหุ้นโลกและราคาน้ำมันปรับฐานแรง
.
โดย "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงรวบรวมมุมมองของ 3 โบรกเกอร์ ที่ได้คัดเลือก 17 หุ้นเด่น น่าลงทุนรับเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจโดยเฉพาะเป็นกลุ่มที่คาดจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุด
.
*** บล.เอเซีย พลัส คาด 3 กลุ่มเด่น รับมือเฟดขึ้นดบ.-ลดขนาดงบ
ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ระบุว่าฝ่ายวิจัยได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบการลดขนาดงบดุลของเฟดในรอบนี้กับรอบปี 2018 พบว่ามีความแตกต่างกัน คือ 1. เฟดเร่งลดขนาดงบดุลเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่าในอดีตถีง 3 เท่า และ2. ตลาดคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยทุกรอบการประชุม ถือเป็นการเร่งขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าปี 2018 ถึง 2 เท่า จึงคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากเป็นการลดสภาพคล่องส่วนเกินที่เร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ยังหนุนให้ Real Yield (ผลต่างระหว่าง Bond Yield กับคาดการณ์เงินเฟ้อ) มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกได้เร็วขึ้นกดดันให้ราคา Commodity ต่างๆทยอยปรับตัวลงได้
.
ทั้งนี้คาดว่าประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่นักลงทุนกังวลมากในปีนี้และเป็นความเสี่ยงสำคัญสำหรับตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามยังพอมีหุ้นที่สามารถรับมือกับปัจจัยดังกล่าวได้ดี และน่าจะ Outperform ตลาดได้ โดยฝ่ายวิจัยแนะนำหุ้น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1 หุ้นได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินตึงตัว แนะนำกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ KBANK, SCB, BBL, BLA และ2.หุ้นได้ประโยชน์ต้นทุนอิงกับราคา Commodity มีโอกาสทยอยลดลง แนะนำ GPSC, BGRIM, BJC, SAPPE รวมถึงหุ้นปัจจัย 4 ผันผวนต่ำกว่าตลาด แนะนำ M, CPALL, HMPRO, CRC, BH, BDMS
.
*** บล.ทิสโก้ ชูแบงก์-ประกัน รับเทรนด์ดบ.ขาขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่าประเมินว่าหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นคือ กลุ่มธนาคารและประกัน เช่น BBL,KBANK,SCB และBLA เนื่องจากกลุ่มธนาคารโดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ซึ่งมีโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อแบบลอยตัวมีสัดส่วนมากกว่าเงินฝากที่ลอยตัว จึงมีแนวโน้มที่รายได้ดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) กว้างขึ้น ขณะที่กลุ่มประกันคาดว่าจะได้ประโยชน์จากผลตอบแทนจากเงินลงทุน เช่น พันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
.
*** บล.เมย์แบงก์ฯ แนะAOT-JMART-JMT รับผลบวกทางอ้อม
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้นโดยตรงคือกลุ่มธนาคารและประกันเช่นกัน ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าวแนะนำ KBANK และ BLA เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งคาดช่วงไตรมาส 1/65 การตั้งสำรองฯลดลง หนุนกำไรปรับตัวมากขึ้น
.
ขณะที่กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ทางอ้อมคือกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT เนื่องจากการที่เฟดเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังซื้อของกลุ่มนักท่องเทียวต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังแนะนำ JMART และ JMT เพราะถือเป็นหุ้นที่มี
สตอรี่ดีและฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง
