ราคาซิลเวอร์พุ่งทะลุ $37 จุดสูงสุดในรอบ 13 ปี
เมื่อ “สงคราม” กลายเป็นแรงเร่ง และ “พลังงานสะอาด” กลายเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคต
วันที่ 18 มิถุนายน 2025
ราคาซิลเวอร์ในตลาดโลก (COMEX) พุ่งทะลุ $37.24 ต่อออนซ์
นับเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 หรือกว่า 13 ปีที่ผ่านมา
น่าสนใจว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังโฟกัสที่ราคาทองคำ…
เงิน (Silver) กำลังกลายเป็น “พระเอกตัวจริง” ของวิกฤตรอบนี้

ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ
ทำไมนักลงทุนถึงวิ่งเข้าสู่ “เงิน”
สงครามระหว่าง อิสราเอล–อิหร่าน ปะทุอีกครั้ง
จากการโจมตีข้ามพรมแดนและการตอบโต้ด้วยขีปนาวุธ
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้สะเทือนแค่ภูมิรัฐศาสตร์…
แต่มัน “เปลี่ยนพฤติกรรมของนักลงทุนทั่วโลก” ภายในไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น
→ นักลงทุนจำนวนมากย้ายเงินจากหุ้น, สินทรัพย์เสี่ยง และคริปโต
→ เข้าสู่ “สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)”
→ และเงิน (Silver) กลายเป็นปลายทางที่ถูกเลือกอย่างมีนัยสำคัญ
ดอลลาร์อ่อนลง โลกกลับมาถือโลหะ
อีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาซิลเวอร์ให้ทะยานก็คือ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มอ่อนตัวลง หลังตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจชะลอขึ้นดอกเบี้ย
เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
→ ทำให้การซื้อโลหะมีค่าอย่างทองและเงินในสกุลดอลลาร์ “ถูกลง”
→ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติในเอเชียและยุโรป ที่เร่งสะสม silver futures
เงินไม่ใช่แค่สินทรัพย์ปลอดภัย แต่มันคือ "เทคโนโลยี"
ปัจจัยสำคัญที่ “ทำให้เงินต่างจากทอง”
คือ ความต้องการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มหลัก:
พลังงานสะอาด เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งใช้ซิลเวอร์เป็นส่วนประกอบในการผลิต
ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบเซนเซอร์/ควบคุม ที่ต้องใช้เงินนำไฟฟ้า
อิเล็กทรอนิกส์-ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ที่เติบโตตามยุค AI
ซิลเวอร์จึงมี “ดีมานด์ที่เติบโตแบบแท้จริง” จากโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่
ไม่ใช่แค่ “แหล่งพักเงิน” เหมือนทองคำในสมัยก่อนเท่านั้น
อินเดียทำสถิติใหม่
Silver Futures แตะ ₹1,09,630/kg
ที่น่าสนใจคือ ตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าซิลเวอร์รายใหญ่ของโลก
ได้เห็นราคาซิลเวอร์ล่วงหน้า (สัญญาก.ค.) บนตลาด MCX
พุ่งแตะ ₹1,09,630 ต่อกิโลกรัม
ซึ่งเป็นระดับราคาสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
นี่แสดงให้เห็นถึง “การไหลของเงินจากนักลงทุนรายย่อยในตลาดเกิดใหม่”
ที่เริ่มหันกลับมามองเงินแทนทอง และมองหาโอกาสจาก “ความผันผวนที่ควบคุมได้”
วิเคราะห์แนวโน้ม: จะไปต่อหรือหยุดแถวนี้?
แนวรับ–แนวต้านในเชิงเทคนิค:
แนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ $37.50–37.70
ถ้าผ่านได้ มีโอกาสไปถึง $40
แนวรับระยะสั้นคือบริเวณ $35.80–36.20
ถ้าหลุดระดับนี้ อาจเกิดการพักตัวชั่วคราว
RSI (Relative Strength Index):
อยู่ราว 68.9 ใกล้เข้าสู่เขต Overbought
→ ตลาดอาจพักฐานระยะสั้น แต่ยังไม่ส่งสัญญาณกลับตัว
นักลงทุนควรทำอย่างไร?
หากคุณเป็น “สายเทรด”:
ตลาดแบบนี้เหมาะกับกลยุทธ์ที่อาศัยความเร็ว เช่น Day trade, Swing trade หรือใช้ Indicator เชิงเทคนิค
หากคุณเป็น “สายสะสม”:
ต้องเข้าใจว่าเงินมีพฤติกรรมต่างจากทอง – ราคาขึ้นแรงก็ลงแรง
แต่หากคุณเชื่อใน “Green Economy” การสะสมซิลเวอร์คือการลงทุนเชิงธีมที่น่าสนใจ
----------
ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก.. KIM Property Live