การผลิตไฟฟ้าของไทยใต้เงาคาร์บอน
พลังงาน คือรากฐานของประเทศ แต่สำหรับไทยวันนี้… มันคือรากฐานของปัญหา

ในปี 2567 ประเทศไทยมีอุปทานไฟฟ้ารวม 235,512 GWh เพื่อรองรับความต้องการของเศรษฐกิจและประชาชน
• ผลิตในประเทศเป็นหลัก โดยมี 15.3% นำเข้า
โครงสร้างแหล่งพลังงานไฟฟ้าปัจจุบัน:
ก๊าซธรรมชาติ: 57.9%
ถ่านหินและลิกไนท์: 14.1%
พลังงานหมุนเวียน: 9.9%
พลังน้ำ: 2.7%
น้ำมันเชื้อเพลิง: 0.1%
แต่ละกิโลวัตต์ที่เราผลิต…แลกมาด้วยคาร์บอน
ปี 2567 ไทยปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 247.8 ล้านตัน
• ภาคไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวปล่อยถึง 93.9 ล้านตัน (38%)
• ก๊าซธรรมชาติ: 61.5 ล้านตัน
• ถ่านหิน/ลิกไนท์: 31.9 ล้านตัน
• น้ำมันเชื้อเพลิง: 0.5 ล้านตัน
แปลว่าไทยยัง “ติดกับ” พลังงานฟอสซิล
ทั้งที่ประกาศเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2593 และ Net Zero ภายในปี 2608
แต่เส้นทางจริงยังวนเวียนอยู่กับถ่านหินและก๊าซเหมือนวันวาน
นโยบายพลังงานไทย: เป้าหมายไกล แต่เส้นทางกลับตีบตัน
แผนพลังงานแห่งชาติ (National Energy Plan)
→ตั้งเป้าพลังงานหมุนเวียน >50% ภายในปี 2580 แต่วันนี้ยังอยู่ที่ 9.9% เท่านั้น
พลังน้ำก็ยังต่ำเพียง 2.7% และผันผวนตามฤดู
เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้าน:
เวียดนามมีพลังงานหมุนเวียน (รวมลม-โซลาร์) เกิน 20%
ฟิลิปปินส์ใช้พลังน้ำและพลังงานทดแทนรวมกันกว่า 30%
→สะท้อนว่าไทย “ช้าเกินไป” ในการออกจากกับดักฟอสซิล
ทางออกที่ต้องไม่ใช่แค่บนกระดาษ
เร่งลงทุนพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนโซลาร์ ลม และเทคโนโลยีเก็บพลังงาน (Storage)
จำกัดโรงไฟฟ้าใหม่จากเชื้อเพลิงฟอสซิล: โดยเฉพาะถ่านหินและก๊าซที่มีคาร์บอนฟุตพรินต์สูง
เชื่อมไฟฟ้าสะอาดในภูมิภาค: เช่น นำเข้าไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว เวียดนาม
จูงใจภาคประชาชน: เช่น ลดภาษี Solar Rooftop หนุนตลาด prosumer
พัฒนา Smart Grid: เพื่อบริหารไฟฟ้าหมุนเวียนแบบกระจายตัวให้เสถียร
ไทยยืนอยู่บนทางแยกของอนาคต ระหว่าง พัฒนาแบบเผาคาร์บอน กับ โตอย่างยั่งยืน
หากยังใช้ไฟจากอดีต เราอาจต้องจ่ายราคาในอนาคต ทั้งเศรษฐกิจที่ไร้ความสามารถแข่งขัน ทั้งสุขภาพประชาชนที่แย่ลง และทั้งชื่อเสียงที่ไม่ตอบเป้าหมายระหว่างประเทศ
พลังงานสะอาด ไม่ใช่แค่เพื่อสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป
แต่มันคือ ยุทธศาสตร์ของการอยู่รอด เพราะในโลกใหม่ ถ้าประเทศไหนยังไม่เลิกเผา… ก็จะถูกเผาแทนด้วยภาษีคาร์บอน มาตรการทางการค้า และต้นทุนชีวิตที่ไม่มีใครอยากจ่าย
.
เรื่องและภาพ: กุสุมา ธะนะวงศ์ Economist, Bnomics
════════════════
ที่มาเนือหาจาก. Bnomics by Bangkok Bank