หุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด ต่างชาติขาย 2,234 ล้านบาท
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 18 มีนาคม ปิดที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.19%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,685.68 - 1,677.16 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ สลับบวก-ลบ ปัจจัยเชิงบวกมาจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ประเมินมาตรการคว่ำบาตรทำรัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. ขณะที่คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นมีแรงเก็งกำไรเข้ามา
ส่วนปัจจัยในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน คาดว่าจะทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว AOT, ERW, MINT
ขณะที่ปัจจัยลบวันนี้ FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา แม้จะคาดว่าจะลดน้ำหนักลงเพียงประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เป็นปัจจัยกดดัน sentiment ลงทุนทำให้ตลาดไปไหนไม่ไกล โดยในวันนี้ปัจจัยไม่แรงทั้งบวกและลบ
แนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดก็ยังไปไหนไม่ไกล โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในสัปดาห์หน้า ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด โดยในบริเวณ 1,680-1,700 จุดจะมีแรงขายทำกำไรออกมา เพื่อล็อกกำไรและเล่นรอบมากกว่า
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,189.79 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,330.46 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,552.32 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,923.55 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- JTS มูลค่าการซื้อขาย 2,459.78 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 6.00 บาท