ครึ่งปีแรกโอกาสลงทุน “หุ้นเอเชีย” & “หุ้นจีน”...
ส่วนครึ่งปีหลังกลับเข้าไปลงทุน “หุ้นสหรัฐ” หลังรับข่าวร้ายหมดแล้ว !!!

.
Fun of Funds: ถ้าพูดถึง “บลจ. แรกในไทย” และเป็น “บลจ.เดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” คงต้องนึกถึง “บลจ.เอ็มเอฟซี”
.
ที่จวบจนปัจจุบัน ก็ยังคงยึดมั่นกับพันธกิจในการมีส่วนร่วมช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงโอกาสการลงทุนอย่างเท่าเทียมผ่านเครื่องมืออย่าง “กองทุนรวม” เพื่อสร้างความมั่งคั่งได้อย่างทั่วถึง
.
นั่นเป็นปณิธานที่มากกว่าตัวเลขสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ว่าจะเป็นเท่าไร
.
โดยใน “ปีกระต่าย” นี้ก็ยังคงเน้นหนักในเรื่อง “การจัดสรรเงินลงทุน” (Asset Allocation) อย่างเหมาะสมให้สอดรับกับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละรายรับได้ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนของตัวเอง
.
ตลอดจนการพัฒนาแอพ “MFC Wealth” ช่วยให้เรื่องการลงทุนง่ายๆ ขึ้น และการรุกไปยัง “ตัวแทนขายอิสระ” (IP อิสระ) ที่จะมาช่วยขยายฐานผู้ลงทุนให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้นในปีนี้
.
ก้าวย่างของ “บลจ.เอ็มเอฟซี” ในปีนี้จะเป็นอย่างไร มีมุมมองการลงทุนเป็นเช่นไรนั้น ตามทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ ไปอัพเดทพร้อมๆ กันได้เลย
.
“บลจ.เอ็มเอฟซี” ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วย “คนไทย” สร้างความมั่งคั่งทางการเงินอย่างเท่าเทียม
.
โดย “ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตขึ้นตามลำดับและในปีนี้ก็มั่นใจว่าตัวเลขการเติบโตจะทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน โดยบริษัทยังรุกในทุกธุรกิจทั้งกองทุนรวม, กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เรามีการเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายผ่านกองทุนในรูปแบบใหม่ๆ มากกว่า 50 กอง ทั้งกองทุนที่มีนวัตกรรมและเป็นผู้นำตลาด ตลอดจน Thematic ต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้กองทุนเหล่านี้ทั้งที่เป็นกองทุนใหม่และกองทุนเก่าไปใช้ในการ “จัดพอร์ตการลงทุน” (Asset Allocation) ให้เหมาะสมกับระดับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนและตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งยังคงเป็นแนวทางบริษัทมุ่งมั่นจะมุ่งไปในปีนี้มากกว่าเรื่องการเติบโตของ AUM
.
“ในปีนี้เรายังคงเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย Thematic ใหม่ๆ เราจะดูแลและคัดสรรโพรดักต์กองทุนดีๆ มานำเสนออย่างต่อเนื่อง และไม่จบแค่การขายกองทุน แต่พร้อมให้ความรู้ลูกและและคำแนะนำการลงทุนการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตลอดจนพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของ ‘MFC Wealth’ และเพิ่ม ‘ตัวแทนขายอิสระ’ (IP อิสระ) เรามองเห็นว่าปัจจุบันคนไทยยังใช้เครื่องมือกองทุนเพื่อวางแผนตอบโจทย์เป้าหมายเกษียณที่เพียงพอค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เราอยากจะมีส่วนร่วมในการช่วยคนไทยในการวางแผนการเงินตอบโจทย์ความมั่งคั่งและเป้าหมายเกษียณให้ทั่วถึงและเท่าเทียมได้ดียิ่งขึ้น”
.
ชี้โอกาสลงทุน “พันธบัตรสหรัฐ” ดักดอกเบี้ยขาลง...ผลตอบแทน “ไม่แพ้สินทรัพย์เสี่ยง”
.
ส่วนมุมมองการลงทุนในปี23 นี้ “ดร.ชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กองทุนต่างประเทศ บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่า เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน “พันธบัตรสหรัฐ” ในรอบหลายทศวรรษเลยทีเดียว ย้อนกลับไปช่วง 4 – 5 ปีก่อน พันธบัตรสหรัฐให้ผลตอบแทนไม่ถึง 1% ปัจจุบันขยับขึ้นมา 4 – 5% แล้ว อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 4.5% พันธบัตรคุณภาพดีให้ผลตอบแทน 5% เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตต้องย้อนกลับไปในปี1981 เลยทีเดียว หรือเมื่อ 41 ปีก่อน ตอนนั้นดอกเบี้ยลงจาก 16% มาเหลือ 11% ลงมา 5% ภายใน 1 ปี 4 เดือน กองทุนตราสารหนี้อายุเฉลี่ยของตราสารในพอร์ต 6 ปี ผลตอบแทนพุ่งระดับ 30% เลยทีเดียวในตอนนั้น ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย
.
“ในปีนี้เรามีมุมมองว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะขึ้นไปจนสุดแล้วมีโอกาสจะปรับลงได้ 2% ในช่วง 1 ปี ข้างหน้า หลังจากขึ้นไปสุดแล้ว ซึ่งตลาดมองไว้ระดับ 5.00 – 5.25% ในช่วงกลางปี ซึ่งกองทุนตราสารหนี้อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตประมาณ 6 ปี ก็มีโอกาสจะทำผลตอบแทนที่โดดเด่นในระดับมากกว่า 10% ได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าดีไม่แพ้สินทรัพย์เสี่ยงเลยทีเดียว ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าสนใจในปีนี้”
.
ชู “5 กองทุน” เด่น...ตอบโจทย์การลงทุน “ปีกระต่าย”
.
ด้าน “เชาวน์กร โชติบัณฑ์” ผู้อำนวยการอาวุโส กลยุทธ์การลงทุน บลจ.เอ็มเอฟซี บอกว่า ปี23 นี้ ตลาดหุ้นยังคงผันผวน ในช่วงครึ่งปีแรก “หุ้นเอเชีย” โดยเฉพาะ “หุ้นจีน” เป็นตลาดที่โดดเด่นสุด มูลค่าถูกและยังมีการเติบโตที่ดี แนะนำ MCHEVO และ MCHINA ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกทางตลาดฝั่งตะวันตกทั้งสหรัฐ, ยุโรป มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย (Recession) และตลาดเองยังมีความเสี่ยงที่จะปรับลงจากระดับปัจจุบันได้อีก ทั้งจากมูลค่าตลาดหุ้นที่ค่อนข้างแพงและมีโอกาสที่จะถูกปรับลดคาดการณ์กำไรลง จึงควรเลี่ยงไปก่อนในช่วงครึ่งปีแรก
.
“แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกรับข่าวร้ายไปหมดแล้วทั้งสหรัฐและยุโรป ก็มีโอกาสที่จะขยับเข้าไปลงทุนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งแรกปีนี้ก็แนะนำให้เน้นหุ้นคุณภาพทั่วโลกผ่านกอง M-EDGE นอกจากนี้หุ้นไทยเองก็มีความโดดเด่นแม้ราคาไม่ถูกไม่แพง แต่ด้วนเศรษฐกิจปีนี้ที่ดีกว่าปีก่อนและยังโดดเด่นกว่าประเทศอื่นๆ ก็เป็นอีกประเทศที่น่าสนใจลงทุน แนะนำ M-FOCUS และ M-MIDSMALL”
.
แม้ปีนี้อุตสาหกรรมกองทุนอาจไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ “บลจ.เอ็มเอฟซี” ก็มั่นใจว่าจะเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน และในปีนี้น่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการลงทุนใน “พันธบัตรสหรัฐ” ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนในระดับที่สูงไม่น้อยหน้า “สินทรัพย์เสี่ยง” แต่ประการใด ซึ่งถือเป็นอีกโอกาสในรอบ 41 ปีเลยทีเดียว