ลุงโฉลกคาด! จุดต่ำสุดบิตคอยน์ $12,000 อาจเห็น Bull Run กลางปีหน้า

══════════════
ลุงโฉลกคาด! อาจเห็นตลาดกระทิงกลางปีหน้า ประเมินจุดต่ำสุดบิตคอยน์ $12,000 ให้สังเกตกราฟจะบอกสัญญาณการขายครั้งสุดท้าย ก่อนตลาดจะพลิกสู่ขาขึ้น พร้อมแนะจัดเงิน 3 กองกระจายความเสี่ยงการลงทุน
.
โฉลก สัมพันธารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chaloke Dot Com, พีรพัฒน์ หาญคงแก้ว CIO จาก Cryptomind Advisory ผู้ก่อตั้งเพจ Blockchain Review, พีรพัฒน์ เพ็ชรดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BearFaceTrade และ กิตติทัศน์ เบญจเจริญพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I Learn A Lot Partnership Limited โดยมี พัทธนันท์ เตชะเสน แห่ง Trader KP เป็นพิธีกรที่คอยส่งคำถามได้กล่าวในงาน Blockchain Thailand Genesis 2022 | Road to Web 3 ในหัวข้อ การเอาชีวิตรอดในตลาดคริปโทฯปีถัดไป
.
***ตลาดขาขึ้นครั้งหน้าเหรียญต่างๆ จะพุ่งขึ้นเหมือนรอบก่อนหรือไม่?
.
ทั้ง 3 กูรูนอกเหนือจากลุงโฉลกระบุว่า ในรอบก่อนๆ ของตลาดกระทิงจะมีกลุ่มเหรียญที่โดดเด่นกว่ากลุ่มอื่น โดยในรอบหน้าของตลาดกระทิงจะมีองค์ประกอบหลากหลายอย่างเช่น เศรษฐกิจในระดับมหภาค และในตลาดช่วงนั้นเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดคริปโทหรือยัง ซึ่งในรอบหน้าก็จะต้องมองหาไปในกลุ่มเหรียญที่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
.
ส่วนทางด้านลุงโฉลกมองว่าในโลกของ Bitcoin มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะก็จริง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือคนที่เข้ามาในตลาดด้วยความโลภ และลักษณะการปรับตัวขึ้นของราคา Bitcoin จะเหมือนกันตลอดเวลา โดยซีอีโอ ChalokeDotCom คาดว่าในช่วงกลางปีหน้าอาจจะเริ่มเข้าสู่ตลาดกระทิง และจุดต่ำสุดอาจจะเป็น 12,000 ดอลลาร์ โดยมีจุดสังเกตในทางเทคนิคอล ที่จะบอกถึงสัญญาณการขายครั้งสุดท้ายของรายย่อยและนั่นคือขาลง ก่อนตลาดจะพลิกสู่ภาวะกระทิง และนอกจากนี้ ก็อย่าลืมคำนึงถึงถึงความสามารถในการรับผลขาดทุนของตัวเองไว้ด้วย
.
ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BearFaceTrade กล่าวว่า หากว่าไม่มีวิกฤตของ FTX ราคาของ Bitcoin ในช่วงนี้อาจจะอยู่ที่ 26,000-27,000 ดอลลาร์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ดังนั้น ต้องมาติดตามดูจากนี้ว่าโดมิโน่เอฟเฟกต์ FTX จะรุนแรงเพียงใด หากไม่รุนแรงมากอาจมีความหวังที่จะได้เห็นตลาดฟื้นขึ้นมาในระดับหนึ่ง
.
***นักลงทุนควรเลือกโปรเจกต์แบบไหนที่จะอยู่รอดได้ในอนาคต?
.
ทั้ง 4 คนได้มองไปในทางเดียวกันว่าให้กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งทางลุงโฉลกได้เสริมว่าให้แบ่งเป็น 3 บัญชี โดยบัญชีแรก ให้เป็นบัญชีที่เก็บออมเพียงอย่างเดียว บัญชีที่สองเป็นบัญชีที่ใช้บอทในการเทรด และบัญชีสุดท้ายคือการซื้อขายแบบที่คิดว่าขาดทุนไปแล้ว และลุงโฉลกให้เน้นย้ำไปที่การลงทุนในบัญชีแรกที่เป็นพอร์ตระยะยาวมากกว่า โดยยังเชื่อว่าคนที่อดทนและอยู่รอดในตลาดหมีไปได้ จะได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน
.
ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผ่านตลาดหมีไปได้คือการเปลี่ยนแนวคิดของตนเอง และต้องศึกษาให้มากว่าเหรียญนี้มีพื้นฐานที่ดีและมั่นคงพอที่จะลงทุนหรือไม่ ซึ่งต้องเป็นการศึกษาด้วยตนเองไม่ใช่จากคำพูดคนอื่นมาบอกกล่าวว่าดี
.
“ทุกคนลงทุนเพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ถ้าหากลงทุนแล้วรู้สึกร้อนรน ไม่มีความสุข แปลว่ามันมีความผิดพลาดในการลงทุนของคุณไม่ว่าจะการบริหารความเสี่ยง ความรู้ หรือแนวคิดในการลงทุน ให้หาจุดที่สบายที่สุดในการลงทุน ซึ่งถ้าพอร์ตการลงทุนขึ้นก็จริง แต่คุณสุขภาพจิตพัง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร” ผู้ก่อตั้งเพจ Blockchain Review ระบุ
.
ในช่วงสุดท้าย ทั้ง 4 กูรูได้ทิ้งท้ายโดยสรุปไว้ว่า การลงทุนต้องมีการกระจายความเสี่ยงเสมอ และต้องมีการตั้งเป้าหมายในการลงทุนให้ดี รวมถึงในตลาดหมีต้องเสียให้น้อยที่สุด และเมื่อเข้าสู่ตลาดกระทิงก็ต้องทำกำไรให้ได้มากที่สุด ซึ่งความอดทนนั้นสำคัญที่สุด
-----------------------------------