KC เปิด 3 แนวทางฟื้นฟูกิจการ ปลดล็อกเครื่องหมาย C
บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C เนื่องจากอยู่ระหว่างการแก้ไขฐานะการดำเนินงานหลังส่วนของผู้ถือหุ้นที่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนที่ชำระแล้ว บริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า วันนี้ (31 ส.ค.) ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงแผนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีรายละเอียดการประชุมสรุปได้ดังต่อไปนี้
เนื่องจากบริษัทฯ ได้นำส่งงบการเงินงวด 6 เดือนแรก ปี 2565 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ส่วนของผู้ถือหุ้นบนงบการเงินรวมของบริษัทฯ เท่ากับ 390.52 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 31.27 ของทุนชำระแล้วภายหลังปรับปรุงด้วยส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ซึ่งมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 50
KC ชี้แจงสาเหตุที่ผลการดำเนินการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ50 ของทุนชำระแล้ว โดยพิจารณาจากงบการเงินรวมที่ผ่านการตรวจสอบหรือสอบทานโดยผู้สอบบัญชีมาจาก 3 สาเหตุ
สาเหตุแรก 70% มาจากการตั้งสำรองหนี้สินในคดีทุจริตตั๋วแลกเงินจากกองทุนโซลาริสในงบการเงิน ซึ่งหนี้สินในคดีความดังกล่าวนี้อยู่ระหว่างการขายทอดตลาดที่ดินที่บริษัทฯ ได้จำนองไว้
สาเหตุที่ 2 มาจากการตั้งสำรองในการด้อยค่าของทรัพย์สิน 2 แปลง สัดส่วน 20% ซึ่งเกิดจากการทุจริตของผู้บริหารในอดีต โดย KC ได้กล่าวโทษร้องทุกข์กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปอศ.) แล้ว
สาเหตุที่ 3. มาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่สูงกว่ากำไรขั้นต้น 10 %
KC แจ้ง 3 แนวทางแก้ไขฐานะการเงิน
1. ขณะนี้อยู่ระหว่างการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันหนี้ (ที่ดินจำนอง) หากแล้วเสร็จ จะทำให้มูลหนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จนส่งผลให้ชำระหนี้ได้เกือบทั้งหมด และทำให้บริษัทฯ ลดภาระดอกเบี้ยได้ปีละประมาณ 30 ล้านบาทลงไปได้ ขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องจำนวน 7 ราย ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้สั่งฟ้องและปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการต่อของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งในส่วนนี้มีโอกาสที่จะทำให้บริษัทฯ ได้เงินคืนมา และส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
2. บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดคดีกับทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปอศ.) มาโดยตลอด และจะให้ความสำคัญเพิ่มมาก
ขึ้นในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
3. ปรับปรุงการบริหารจัดการทรัพยากรของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน โดยอยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างองค์กร เพื่อลดหน่วยงานที่ซ้ำซ้อน และเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของพนักงานให้สูงสุด รวมทั้งปรับรูปแบบธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในอนาคต อยู่ระหว่างประสานกับสถาบันทางการเงินเพื่อขอสนับสนุนเงินทุนในการขยายธุรกิจ ปรับรูปแบบธุรกิจโดยแบ่งเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ( Non-Property ) สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ นอกจากเร่งพัฒนาโครงการในที่ดินเดิมของบริษัทฯ และจะเปิดรับการร่วมธุรกิจกับบุคคลภายนอกที่เป็นเจ้าของที่ดิน รวมถึงการเข้าไปร่วมทุนหรือซื้อโครงการของเอกชนที่มีศักยภาพสูงที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหรือระหว่างขาย นอกจากนั้น ยังขยายธุรกิจด้านการขายฝากที่ดินเพื่อเพิ่มรายได้เสริมให้แก่บริษัทฯ
ส่วนแธุรกิจ Non-Property บริษัทฯ หรือบริษัทฯ ย่อยจะลงทุนหรือร่วมทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์โดยเน้นการสร้าง New S-Curve ในธุรกิจใหม่ๆ และที่อยู่ในกระแส