ห้องเม่าปีกเหล็ก

Top 5 ดาวรุ่งกลุ่มอาหาร

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
64 views

Top 5 ดาวรุ่งกลุ่มอาหาร ผลงานโค้งแรกกำไรเติบโตมากสุด

กลุ่มธุรกิจอาหารถือเป็นอีกกลุ่มที่ได้รับทั้งผลดีและผลเสีย จากการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้กำลังซื้อหดตัวไปตั้งแต่ในช่วงต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน โดยทำให้ผู้ประกอบการหลายราย ได้ปรับตัวมาพึ่งช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์แพลตฟอร์ม และเดลิเวอรี่มากขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

 

ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงได้นำข้อมูล 5 อันดับผลประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีการเติบโตได้ดีในอุตสาหกรรม มาแชร์ให้ผู้อ่านได้ดูกัน

อันดับแรก บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE ที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 667% โดยมีสาเหตุจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับเงินสกุลเหรียญสหรัฐอเมริกา และต้นทุนขายที่ลดลง


ถัดมาบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG โดยธุรกิจไก่ได้รับอานิสงส์ด้านราคาเพิ่มขึ้นมาจากราคาขายในตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น และมีการปรับช่องทางการจำหน่ายไปช่องทางที่มีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิพุ่งถึง 214% จากงวดเดียวกันของปีก่อน


ลำดับที่ 3 บริษัท เชียงใหม่โฟรเซ่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CM เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีรายได้จากการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากการเร่งซื้อสินค้าบริโภคเพื่อกักตุนในตลาดต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนทำให้ในไตรมาส1/63 สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ที่ 2.56 ล้านบาท


ลำดับที่ 4 บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) หรือ PRG ที่สถานการณ์ COVID-19 ในเดือนมีนาคม ได้ส่งผลให้ยอดขายข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ส่วนธุรกิจศูนย์อาหารที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากคําสั่งปิดศูนย์การค้า แต่ช่วยให้ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 14% เป็นผลของการควบคุมต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายบริหาร และการปิดกิจการร้านอาหาร


สุดท้ายบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ที่ได้ชี้แจงว่ากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น จากการบริหารค่าใช้จ่ายขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้ที่เพิ่มสูงขึ้น


สำหรับกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารในไตรมาส 1/63 ยังคงมีการเติบโตได้ดีโดยอยู่ที่ 11,138.24 ล้านบาท เติบโต16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 9,583.71 ล้านบาท

 

 

CPF ยังคงครองแชมป์กำไรสุทธิสูงสุดในกลุ่ม

กำไรสุทธิที่สูงสุดยังคงเป็นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF โดยมีกำไรสุทธิ 6,110.93 ล้านบาท มีการเติบโต 43% จากปีก่อนที่ทำได้ 4,279.41  ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายและอัตรากำไร


โดยนาง กอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัท/หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้ให้มุมมองของอุตสาหกรรมหลังจากเจอการระบาดไวรัส COVID-19 ว่า ธุรกิจอาหารยังคงเป็นปัจจัย 4 ในชีวิตประจำวันนั้น หมายความว่ายังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง


ซึ่งการระบาดของระบาดไวรัส COVID-19 นั้น ย่อมมีผลกระทบต่อกำลังซื้อแน่นอน จากการปิดให้บริการของสถานที่ต่างๆในแต่ละประเทศ ซึ่งยังมีการระบาดของไวรัสที่ต่อเนื่องและรุนแรง


“อุตสาหกรรมอาหารยังคงเป็นปัจจัย 4 เราเชื่อว่ายอดขายจะได้รับผลกระทบอยู่บ้างในบางช่องทาง อย่างการปิดบริการของร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ช่องทางเดลิเวอรี่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จึงให้อุตสาหกรรมอาหารได้รับผลกระทบอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก”นางกอบบุญ กล่าว

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


หญิงแม้น