JAS ราคายังแข็ง แม้งบ Q1 ดิ่ง นักวิเคราะห์มองผลงานเสี่ยงขาดทุนต่อ
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS วันที่ 11 พ.ค. 2563 เปิดการซื้อขายที่ระดับ 3.78 บาท ลดลง 4.06% จากวันก่อนหน้า ก่อนจะมาปิดการซื้อขายในช่วงเช้าที่ระดับราคา 3.94 บาท เท่ากับราคาวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 288.129 ล้านบาท
สะท้อนถึงรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2563 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 990 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 559 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,588 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจาก TTTBB
นางสาวสายใจ คีตสิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดไตรมาส 1/2563 มีผลขาดทุนสุทธิ 990 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 559 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/2562 มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 151 ล้านบาท รวมทั้งการบันทึกค่าเช่า OFC (20% ตามสัญญาประกันรายได้) ที่เพิ่มขึ้นจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เพิ่มเติมในเดือน พ.ย. 2562 และการบันทึกตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ในส่วนสัญญาเช่าหลัก (80% ของ OFC) ทำให้ค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่ายที่บันทึกในงบกำไรขาดทุนเพิ่มขึ้น (เมื่อเทียบกับการบันทึกบัญชีตามแบบเดิม) โดย EBITDA ในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 3,094 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 4,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,588 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจาก TTTBB
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2563 ลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB เพิ่มขึ้นสุทธิ (Net Additional Subscriber) จำนวน 61,597 ราย ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 3BB อยู่ที่ 3.24 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าที่ใช้บริการ FTTx ประมาณ 2.05 ล้านราย สัดส่วนจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ FTTx เพิ่มขึ้นเป็น 63% จากสิ้นไตรมาสเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 41% เป็นผลจากการออกแพ็กเกจ GigaFiber ในช่วงต้นเดือน มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการ FTTx เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมินงบขาดทุนแจ้งปันผลต่อ
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2563 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมยังไม่จัดสรร ณ 31 มี.ค. 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 8,314,955,764 หุ้นในอัตรา 0.05 บาท/หุ้น รวมจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้นจำนวน 415,747,788.20 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 21 พ.ค. 2563 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 5 มิ.ย. 2563
โชว์กำไรสะสมทะลุหมื่นล้านบาท
ณ สิ้นไตรมาส 1/ 2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสะสม อยู่ที่ 6,898 ล้านบาท (ตามงบการเงินรวม) และอยู่ที่13,604 ล้านบาท (ตามงบการเงินเฉพาะกิจการ) โดยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดตามงบการเงินรวม อยู่ที่ 22,408 ล้านบาท
กูรูไม่แนะนำลงทุน JAS
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังไม่แนะนำลงทุน JAS และมองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงตอบรับผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุนสุทธิ 990 ล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบของ TFRS 16 และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
หากหักผลกระทบ 2 รายการนี้ออก ผลการดำเนินงานจากธุรกิจปกติยังคงขาดทุน สาเหตุจากค่าเช่าอุปกรณ์และโครงข่ายเร่งตัวขึ้นจากการขายสินทรัพย์เพิ่มให้ JASIF และบันทึกค่าเช่า OFC ในสัญญาประกันรายได้ (20% ของ OFC) เพิ่มขึ้นตามสินทรัพย์ใหม่ ขณะที่รายได้ธุรกิจบรอดแบนด์เติบโตแผ่วจากการแข่งขันรุงแรงในตลาดบรอดแบนด์กดดันค่าบริการลดลงต่อเนื่อง
ดังนั้นอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการปี 2563-65 ของ JAS สะท้อนต้นทุนค่าเช่าอุปกรณ์และโครงข่ายที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบของ TFRS 16 นอกจากนี้หลังจากจ่ายเงินปันผลพิเศษอัตรา 1.48 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 12,306 ล้านบาท และเงินปันผลระหว่างกาลอีก 0.05 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 416 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจะมีเงินสดลดลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 2/2563 ส่งผลให้ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลลดลงในอนาคต และฐานะการเงินระยะยาวมีความเสี่ยงสูงขึ้น
ราคาหุ้นมีโอกาสปรับลง
ส่วนมุมมองของนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์หุ้น JAS (not rated) แต่คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับลง หลังจากผิดหวังงบไตรมาส 1/2563 และอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่ต้องจับตามอง คือ TRUE (not rated) เพราะ TrueMove H ได้มีการเช่าโครงข่ายจาก DIF จะนำมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 16 มาใช้เช่นเดียวกับ JAS หรือไม่ อย่างไรก็ตาม JAS ได้ประกาศปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท XD 21 พ.ค.63 และจ่ายปันผล 5 มิ.ย.63 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลไม่สูงผิดปกติเป็น 1.3%
JAS เสี่ยงขาดทุนต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุช่วงหนึ่งในบทวิเคราะห์ JASIF ว่า ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง อีกทั้งคู่แข่งให้บริการครบวงจรทั้งมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้าน ทำให้ JAS มีความเสี่ยงขาดทุนต่อเนื่อง และอาจกระทบต่อความมั่นคงของรายได้ JASIF ในระยะยาว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก