ประเทศไทยเคยผ่าน ยุคแห่งความโชติช่วงชัชวาลครั้งที่ 1 มาแล้ว โดยเริ่มจากรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ที่ได้วางรากฐานสําคัญไว้คือ โคงการอิสเทร์นซีบอร์ด และมีเหตุการณ์ที่สําคัญคือ ญี่ปุ่นได้ย้ายฐานการผลิตจากประเทศของตัวเองมายังประเทศอื่นๆรวมถึงประเทศไทย เนื่องจาก มีข้อขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกาใน Plaza Accord ในปี พ.ศ 2528 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นมีผล ดังนี้ คือ :
1) ประเทศไทยได้เปลี่ยนจากประเทศที่ประชาชนพึ่งพิงรายได้จากภาคเกษตรกรรมมาเป็นประเทศที่ประชาชนพึ่งพารายได้จากภาคอุตสาหกรรม และรายได้ประชาชาติต่อหัวของประชาชนชาวไทยเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ
2) GDP ของประเทศไทยเกิน 10% ติดต่อกัน 3 ปีซ้อนในปี พ.ศ 2531, 2532 และ 2533
3) Set Index ปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลาดกาลครั้งแรกระหว่างชั่วโมงการซื้อขายที่ 1,789 จุด เมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี พ.ศ 2537
ประเทศไทยน่าจะเข้าสู่ ยุคโชติช่วงชัชวาลครั้งที่ 2 ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะ โครงการอีอีซี ( EEC ) และน่าจะมีเหตุการณ์ที่สําคัญคือ นักลงทุนของประเทศต่างๆที่ไปลงทุนในประเทศจีนน่าจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังประเทศอิ่นๆรวมถึงประเทศไทย เนื่องจาก เกิดสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 ซึ่งน่าจะมีผลทําให้รายได้ประชาชาติต่อหัวของประชาชนชาวไทยดีขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตดีขึ้น และสุดท้าย Set Index ก็น่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และไม่สามารถรับประกันความถูกต้องได้
หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนในสภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com