ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล แบกความเสี่ยงแค่ไหน ?

 

 

 

.

หากย้อนไปไม่ไกลมาก สักช่วงต้นปี 64 คงจะจำกันได้ว่า สินทรัพย์อย่างสกุลเงินดิจิลทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบิทคอยน์ (Bitcoin) สร้างปรากฏการณ์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

.

โดยวันที่ 8 ม.ค.64 บิทคอยน์ พุ่งทำจุดสูงสุดที่ 41,946 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.26 ล้านบาท) ต่อ 1 Bitcoin ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจาก 9,100 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.73 แสนบาท) ต่อ 1 Bitcoin เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 เท่านั้นเอง

.

ต้องยอมรับว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีนักลงทุนหน้าใหม่ สนใจเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกันอย่างล้นหลาม เพราะหวังว่า ราคาสินทรัพย์ดังกล่าวจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นความหวังของการลงทุนยุคใหม่

.

การตัดสินใจเข้าไปลงทุนดังกล่าว ก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการรีบตัดสินใจเข้าลงทุน เพราะกลัวจะตกขบวน โดยที่หลายคนแทบไม่ได้ประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน หรือทำความรู้จักกับสินทรัพย์ดังกล่าวดีพอเลย

.

ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ได้ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนมาเป็นระยะๆอยู่ตลอดเวลา ว่าการลงทุนดังกล่าวนั้นมีความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งผู้ลงทุนอาจเผชิญกับภาวะขาดทุนมากกว่ากำไร

.

สาเหตุที่ทำให้ ก.ล.ต. มองว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง และอาจยังไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ เนื่องจากเล็งเห็นถึง 2 ความเสี่ยงสำคัญ ที่เหล่านักลงทุนต้องแบกรับ ดังนี้

.

1.สินทรัพย์ดิจิทัล มีความผันผวนสูง : ในช่วงที่ผ่านมา ราคาของคริปโทเคอร์เรนซีผันผวนรุนแรงมาโดยตลอด โดยเห็นได้จากความเคลื่อนไหวของมูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลทั่วโลก

.

จากข้อมูลที่ ก.ล.ต.รวบรวมพบว่า พ.ค.61 เคยขึ้นไปถึง 4.23 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 12.69 ล้านล้านบาท) จากนั้นลดลงกว่า 69% มาอยู่ 1.3 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท) ช่วง ม.ค.62 ก่อนสวิงขึ้น 46% มาอยู่ที่ 1.91 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.73 ล้านล้านบาท) ในเดือม.ค.63

.

ความเคลื่อนไหวด้านราคาช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังมีค่าความผันผวนสูงมาก เช่น Bitcoin มีค่าความผันผวนของราคาที่เคยขึ้นไปถึง 140% เมื่อช่วงเดือนเม.ย.63 ขณะที่ตลาดหุ้นไทย (SET index) ที่ว่ามีความเสี่ยงมากแล้ว ยังมีค่าความผันผวนสูงสุด 72% เท่านั้น

.

ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล จึงต้องรับความความเสี่ยงได้สูงมาก และยอมรับว่ามีโอกาสที่จะสูญเงินลงทุนทั้งหมดภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ดังนั้น เงินที่จะนำมาลงทุนควรจัดสรรในสัดส่วนที่เหมาะสม ควรเป็นเงินที่เมื่อสูญไปแล้ว ต้องไม่เป็นภาระต่อตัวเองและครอบครัว

.

2.สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นการเก็งกำไรมากเกินไป : ความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล เกิดจากดีมานด์และซัพพลาย บวกกับปัจจัยทางจิตวิทยา และอาจไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เพราะฉะนั้น จึงเป็นการลงทุนเพื่อการเก็งกำไรเกือบทั้งหมด

.

ดังนั้น ผู้สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากต้องรับความเสี่ยงได้สูงแล้ว ยังต้องมีความรู้ ความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัลที่สนใจลงทุนเป็นอย่างดี และต้องระมัดระวังอย่าหลงเชื่อการโฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนหน้าใหม่