10 ข้อสรุป จุดแข็ง / ความเสี่ยง /โอกาสของหุ้น TURBO (เงินเทอร์โบ)

10 ข้อสรุป จุดแข็ง / ความเสี่ยง /โอกาสของหุ้น TURBO (เงินเทอร์โบ)

..

10.ข้อของ TURBO (เงินเทอร์โบ)

1. NIM / Yield On Loan สูง

TURBO มีอัตราดอกเบี้ยรับ (Yield on Loan) ประมาณ ~24.2% และ NIM สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Non‑Bank แบบจดทะเบียนรถ/โฉนดที่ดิน ทำให้ Margin ดอกเบี้ยค่อนข้างดีเมื่อหักต้นทุนเงินแล้ว 

2. ขยายสาขากว้างไกลทั่วประเทศ

มีสาขา ~996 สาขา กระจายอยู่ 54 จังหวัด ณ มิ.ย. 2568 ซึ่งช่วยให้เข้าถึงลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ที่บริการธนาคารอาจไม่ทั่วถึง 

3. ใช้เทคโนโลยีเป็นแกนกลางการดำเนินงาน

ทีมเทคโนโลยี & ฝ่ายข้อมูลคิดเป็น ~32.3% ของพนักงานสำนักงานใหญ่ — ช่วยให้ระบบอนุมัติสินเชื่อรวดเร็ว, ปรับปรุงประสิทธิภาพ, ลดต้นทุนต่อสาขาได้ดีขึ้น 

4. โครงสร้างสินเชื่อที่มีหลักประกันมาก

สินเชื่อที่มีหลักประกัน (ทะเบียนรถ, โฉนดที่ดิน) ประมาณ 84% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ช่วยลดความเสี่ยงของการไม่ชำระหนี้และการขาดทุนจากทรัพย์ยึดแล้วขายทอดตลาดได้บางส่วน 

5. โครงสร้างการเงิน / สภาพคล่องพอใช้

มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่รับได้ (แม้สูงขึ้น) และมีหุ้นกู้ /วงเงินกู้จากสถาบันการเงินรองรับการขยายธุรกิจได้ 

6. คะแนนเครดิตองค์กร BBB‑, Outlook Stable

ได้รับเรตติ้งจาก TRIS Rating ว่า “BBB-” พร้อมมุมมองเสถียร ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและแหล่งเงินทุนภายนอก 

7. เติบโตเร็วจากฐานเล็ก

พอร์ตสินเชื่อ + รายได้ของ TURBO โตแบบหลายสิบเปอร์เซ็นต์หลายปีย้อนหลัง (เช่น จากปี 2563 → ปัจจุบัน) ซึ่งแปลว่ามี upside ถ้าบริษัทรักษาการเติบโต + บริหารต้นทุนดีได้ 

8. ความเสี่ยงด้านหนี้เสีย (NPL) และต้นทุนเครดิตสูง

NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และบริษัทต้องตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตมากขึ้น ซึ่งกระทบกับกำไรสุทธิระยะสั้นได้ 

9. การแข่งขันสูงในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียน / non‑bank

มีผู้เล่นอยู่แล้วเยอะและเก่าแก่ในบางพื้นที่ ต้นทุนได้รับลูกค้าใหม่อาจสูง และถ้าบริษัทไม่สามารถแตกต่างหรือมีบริการที่เหนือกว่าย่อมยากสำหรับการแย่งส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น 

10. โอกาสจากดอกเบี้ยขาลง /วงจรเศรษฐกิจ

ถ้าอัตราดอกเบี้ยของระบบลดลง, ต้นทุนเงินของ TURBO จะถูกลง → margin จะยิ่งดีขึ้น อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากลูกค้าที่ต้องการแหล่งสินเชื่ออื่นเมื่อแบงก์เข้มงวดหรือเข้ายากขึ้น 

..

ข้อสรุป / มุมมอง

TURBO มีโอกาสดีที่จะ “ปัง” ถ้ารักษาคุณภาพสินเชื่อได้, คุมต้นทุนการดำเนินงาน และใช้เทคโนโลยี + ขยายสาขาให้เข้าถึงลูกค้ารายย่อย. แต่ระวัง NPL +ต้นทุนเครดิต +การแข่งขันที่อาจบีบ Margin ถ้าปรับตัวไม่ทัน.

ที่มา…  หุ้นพอร์ทระเบิด