ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทริส ลดเรทติ้ง “อาร์ เอส” ธุรกิจพาณิชย์อ่อนแอ บันเทิงยังแกร่ง

โดย เม่าคาวบอย
เผยแพร่ :
104 views

ทริส ลดเรทติ้ง “อาร์ เอส” ธุรกิจพาณิชย์อ่อนแอ บันเทิงยังแกร่ง

 

ทริสเรทติ้ง ปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. อาร์ เอส (RS) เป็นระดับ “BBB” จาก“BBB+” โดยยังคงแนวโน้มอันดับเครดิตที่ “Stable” หรือ “คงที่” โดยการลดอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจพาณิชย์ และภาระหนี้ที่สูงขึ้นจากการควบรวมกิจการ แม้ว่าบริษัทมีแผนในการลดภาระหนี้ลง แต่ทริสคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะยังคงอยู่สูงเกินกว่าระดับที่เหมาะสม
 

สำหรับอันดับเครดิต “BBB+” เมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่จะเพิ่มความท้าทายต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจสื่อและบันเทิงของบริษัทซึ่งสนับสนุนโมเดล “Entertainmerce” และฐานะทางการตลาดให้แก่ธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทได้
 

ทริส ระบุว่า RS รายงานผลประกอบการของธุรกิจพาณิชย์อ่อนแอกว่าที่คาด โดยมียอดขายลดลงต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้ธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทลดลง 5% ในปี 2564 และ 33% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 2.26 พันล้านและ 826 ล้านบาท ตามลำดับ 
 

ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอจากสภาวะการบริโภคและใช้จ่ายที่ลดลงอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง (Home Shopping) นอกจากนี้ สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งได้แก่ แบรนด์ well u และ Vitanature+ (ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม) แบรนด์ CAMU C (เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ๊งก์) และแบรนด์ Lifemate (อาหารสัตว์เลี้ยง) ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น 
 

ในอนาคต ทริสมองว่าธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทยังต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องทั้งด้านผลการดำเนินงานและการเติบโต ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยจะส่งผลต่อความต้องการสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าจำเป็น
 

บริษัทมีแผนจะนำสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจอ่อนแอ ทั้งการปรับขนาดของสินค้า การปรับสูตรสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ well u และ Vitanature+ เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ๊งก์ ที่มีส่วนผสมของกัญชงสำหรับแบรนด์ CAMU C และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์แบบเปียกสำหรับแบรนด์ Lifemate ทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทยังต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างแบรนด์ สร้างสถานะทางการตลาด ตลอดจนความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้แบรนด์และสินค้าของบริษัทเติบโตได้ในระยะยาว
 

สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งประมาณการว่ารายได้จากธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาทในปี 2565 และจะอยู่ที่ 2.4-2.7 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2567 โดยที่การคาดการณ์รายได้ดังกล่าวได้รวมรายได้จาก ULife ซึ่งเป็นธุรกิจขายตรงที่บริษัทซื้อกิจการมาในเดือนพฤษภาคม 2565 บริษัทมีแผนจะทำให้ธุรกิจของ ULife เป็นธุรกิจขายตรงรูปแบบใหม่ภายใต้บริบทของกลยุทธ์ “Entertainmerce” ของบริษัท ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จก็จะช่วยสนับสนุนให้รายได้ของธุรกิจพาณิชย์เติบโต 
 

ทริสเรทติ้งประมาณการว่ารายได้จากธุรกิจสื่อของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 1.3 พันล้านบาทในปี 2564 ไปอยู่ที่ 1.8-2 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่าง ๆ ที่จะสร้างรายได้ทั้งจากการขายบัตรและรายได้จากการสนับสนุนของสปอนเซอร์หลังจากที่สถานการณ์ของโรคโควิด 19 คลี่คลายลง 
 

ในขณะที่รายได้จากธุรกิจสื่อจะเติบโตได้เล็กน้อย แม้ว่าบริษัทจะสามารถผลิตและออกอากาศรายการใหม่ ๆ ได้มากกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคสื่ออย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวจำกัดการเติบโตของรายได้โฆษณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจสื่อดั้งเดิมอย่างทีวีและวิทยุ อย่างไรก็ดี การที่บริษัทผลิตรายการใหม่ ๆ ออกมาก็จะสนับสนุนให้บริษัทมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์รายการได้อย่างต่อเนื่อง 
 

บริษัทมีความพยายามในการหาโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธุรกิจสื่อทั้งในด้านสื่อออนไลน์ การตลาดแบบดิจิตอล และ ป็อปคอยน์ (Popcoin) ที่เป็นเครื่องมือทำการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็จะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตของรายได้และยังส่งเสริมกลยุทธ์ “Entertainmerce” ของบริษัทได้อีกด้วย

 

 


เม่าคาวบอย