ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิเคราะห์ หุ้น BEM ผ่าน 5 Forces Model ตอนที่ 2

โดย Yoo
เผยแพร่ :
69 views

วิเคราะห์ หุ้น BEM ผ่าน 5 Forces Model ตอนที่ 2

 

จากที่ค้างกันไว้ ใน 2 forces ในคราวที่แล้วhttp://www.stock2morrow.com/discuss/topic/ห้องเม่าปีกเหล็ก/วิิเคราะห์-หุ้น-bem-ผ่าน-5-forces-model

 

วันนี้เรามาต่อกันกับ อีก 3 force ที่เหลือกัน...

 

 

3.Threat of Subtitute Product or Service

                 

                ความยืดหยุ่นและคุณสมบัติในการใช้งานทดแทนกันของสินค้าทดแทนเป็นศูนย์ การให้บริการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯโดยบริษัทฯมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐ

 

                สำหรับสัมปทานในการก่อสร้างและบริหารทางพิเศษ ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่2) ภายใต้สัญญาโครงการกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2533 และทางพิเศษส่วนต่อขยาย มีระยะเวลา 30 ปี เช่นกัน นับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2540

 

                 ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ภายใต้สัญญาสัมปทานการลงทุนออกแบบก่อสร้าง บริหารจัดการ ให้บริการและบำรุงรักษา มีระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2555

                 

                ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางประอิน-ปากเกร็ด) โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อย (NECL) ระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2539

 

 

 

               สำหรับสัมปทานโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าจำนวน 2 โครงการ

        

               โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) (หังลำโพง-บางซื่อ) บริษัทเป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการจัดเก็บค่าโดยสาร รวมทั้งค่าดำเนินกิจกรรม และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ การโฆษณา และการให้เช่าพื้นที่ในโครงการ และธุรกิจให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมภายในสถานีและภายในขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 25 ปี นับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2547

 

               โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ(คลองบางไผ่-เตาปูน) สัญญาที่ 4 สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงตามมาตฐานการให้บริการ โดย รฟม. เป็นผู้มีสิทธิในรายได้ค่าโดยสาร และรายได้เชิงพาณิชย์จากการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางโยธาและระบบรถไฟฟ้าทั้งหมด และ รฟม.จะจ่ายคืนบริษัทในลักษณะค่าจ้างบริหารการเดินรถไฟฟ้า ค่าซ่อมบำรุง และค่าอุปกรณ์งานระบบ ตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี นับจากวันที่ลงนามในสัญญา

            

                ด้านต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลง (switching cost)  ไปสู่สินค้าทดแทนอื่น เนื่องจากบริษัทฯเป็นเพียงบริษัทเดียวในอุตสาหกรรมที่ได้รับสัมปทานในการเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางดังกล่าว ถึงแม้จะมีการขนส่งมวลชนประเภทอื่น เช่น รถขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ รถแท็กซี่ Uber ก็ไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่า หรือมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก จึงไม่ถือเป็นคู่แข่งของบริษัท ทำให้ลูกค้ามีต้นทุนในการเปลี่ยนแปลงไปสู่สินค้าทดแทนอื่นสูงขึ้นมาก บริษัทจึงมีความได้เปรียบในแง่ของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลง (switching cost)

 

 

 

 

 

4. Bargaining Power of buyers : อำนาจการต่อรองของลูกค้า

               

               เนื่องจากผู้รับบริการเป็นประชาชนทั่วไป มีจำนวนมากรายถึงแม้การให้บริการจะมีลักษณะที่เป็น standard และผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการจากบริษัทใดก็ได้ในอุตสาหกรรม แต่เนื่องจากบริษัทฯเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานทั้งจากการทางพิเศษกรุงเทพฯและรฟม.ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเลือกไปใช้บริการจากบริษัทอื่นได้ และลูกค้าไม่ได้มีอำนาจต่อรองทั้งในแง่ของราคาเนื่องจากเป็นธุรกิจผูกขาด

 

                ทั้งนี้การขึ้นราคาค่าโดยสารทั้งในส่วนของการให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าใต้ดินจะถูกจำกัดราคาเพดานโดยภาครัฐ รวมถึงต้องมีการชี้แจงเหตุผลและแสดงค่าใช้จ่ายต่างๆที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในการขึ้นค่าโดยสารแต่ละครั้งโดยละเอียด เป็นการป้องกันการที่บริษัทจะอาศัยอำนาจการผูกขาดในธุรกิจเอาเปรียบผู้บริโภค และลูกค้าเองก็ไม่ได้มีความสามารถหรือมีทรัพยากรเพียงพอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการของผู้ผลิต

 

 

 

 

5. Bargaining Power of supplier : อำนาจการต่อรองของผู้ขายวัตถุดิบ

               

                จำนวน supplier ที่จะรับเหมาสร้างโครงการทั้งระบบทางพิเศษและโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน มีเพียง supplier ไม่กี่รายที่มีความสามารถและทรัพยากรมากพอที่จะรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เช่นนี้ โดยโครงการส่วนใหญ่เกิน ร้อยละ 80 จะให้ บริษัท ช.การช่าง ดำเนินการก่อสร้างให้ เนื่องจากบริษัท ช.การช่าง เป็นผู้ถือหุ้นจำนวน 28.54% ของบริษัท นอกนั้นนั้นอีก 10% จะเป็น บริษัท อิตเลียน-ไทย หรือ บริษัท ยูนิค ถึงแม้จะมี supplier จำนวนน้อยราย แต่บริษัทเหล่านั้น ก็ไม่มีอำนาจต่อรองมากนัก เนื่องจากโครงการลงทุนทั้งทางพิเศษและโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หากบริษัทก่อสร้างใดประมูลได้ จะสามารถนำรายได้เข้าบริษัทได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทฯเองจึงมีอำนาจต่อรองกับ supplier ผ่านการประมูลโครงการแต่ละครั้ง

 

 

 

 

 

นอกจากธุรกิจก่อสร้าง บริหารทางพิเศษและรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแล้ว บริษัทยังไดัมีการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในธุรกิจอื่นเพิ่มเติมดังนี้

  • ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ (บริษัท BMN) ถือหุ้นเป็นจำนวน 19%
  • ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา (บริษัท TTW) ถือหุ้นเป็นจำนวน 57%
  • ธุกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า (บริษัท CKP) ถือหุ้นเป็นจำนวน 40%
  • ธุรกิจก่อสร้างและดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี(บริษัท XPCL) ถือหุ้นเป็นจำนวน 50%

 

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการวิเคราะห์ หุ้น BEM ผ่าน 5 Forces Model 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนที่สนใจ ในหุ้น BEM กันนะคะ

 

 

- Yoo -

 


Yoo