ถอดบทเรียน ตลาดร่วงหนัก

1. ถ้าใครอยู่ในตลาดมานาน ๆ จะเห็นว่าตลาดร่วงแบบนี้เป็น “เรื่องธรรมดา” สำคัญว่าเราจะผ่านมันไปได้หรือเปล่า ตลาดไม่เคยขึ้นอย่างเดียวโดยไม่มีลง และเช่นกันตลาดก็ไม่มีลงอย่างเดียวโดยไม่มีขึ้น แต่ช่วงที่ตลาดลง “เรารับมือกับมันได้แค่ไหน”
2. “ภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้น ถ้าผ่านการลงมาหลาย ๆ ครั้ง” ยิ่งบางคนผ่าน CRISIS เลย พอร์ตหล่นไปมากกว่า 50% ถ้ามั่นใจในหุ้น มั่นใจในกิจการที่ถือ บางทีขายไม่ทัน รอ รอ รอ เดี๋ยวพอ CRISIS ผ่านไป กำไรกลับมา ราคาก็กลับมาที่เดิม เผลอ ๆ บวกมากว่าเดิมอีก
3. “ข่าวร้ายคู่กับตลาดหุ้นเสมอ” ลองทบทวนดู ตั้งแต่เราเข้าตลาดเราเจอข่าวดีหรือข่าวร้ายมากกว่ากันแน่ และทุกครั้งที่เจอข่าวร้าย หุ้นจะลงเกินจริง จริงไหม? และจังหวะนี้คือโอกาสหรือวิกฤติกันแน่? และพอข่าวร้ายหมดไป ราคากลับมาและขึ้นมากกว่าเดิมไหม?
4. จะผ่านได้ยังไง “MINDSET และ MONEY MANAGEMENT” คือสิ่งสำคัญ ตลาดน่ะมันอยู่มาเป็นสิบเป็นร้อยปี มีแต่เรานี่แหละหมุนเวียนเปลี่ยนหน้ากันมา ใคร Mindset ดีกว่า ใครบริหารจัดการเงินได้ดีกว่า ยืนในตลาดระยะยาวได้มากกว่า คนนั้นคือผู้ชนะเสมอ
5. อย่า “เอาไข่ใส่ในตระกร้าใบเดียว” อย่าซื้อหุ้นอย่างเดียว อย่าซื้อหุ้นตัวเดียว อย่าซื้อเหรียญอย่างเดียว อย่าซื้อเหรียญเหรียญเดียว ลองดูคนที่เขาประสบความสำเร็จ “ส่วนใหญ่” เขาทำกันเขากระจายความเสี่ยงหรือเปล่า บางคนเถียงบางคน ALL IN ยังรวยได้…นั่นคนส่วนน้อยหรือเปล่า แล้วเราเก่งขนาดนั้นหรือเปล่า
6. “เผื่อใจเอาไว้มั่ง” เวลาซื้อหุ้น ทุกคนคิดแต่ว่ามันจะขึ้นไปกี่ % แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันมีโอกาสลงเท่าไหร่ บางทีซื้อปุ๊บลงเลย ดังนั้นคิดจะซื้อหุ้นตัวนี้ล้านนึง อย่าซื้อทีเดียว แบ่งไม้ซื้อดี ๆ ซื้อเป็นโซน ซื้อแล้วลง ถ้ายังไม่ถึงจุด cut ให้ซื้อเพิ่ม
7. “เงินสดไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย” มีเงินสดติดพอร์ตเอาไว้สัก 30% ก็ดี คิดซะว่าเงินสดมันก็คือหุ้นตัวนึงนั่นแหละ เอาไว้ซื้อเวลาที่ตลาดลงหนัก ๆ แล้วมีหุ้นดี ๆ โดนตกใจขายเทลงมา หรือเอาไว้แก้พอร์ตแก้ดอย อย่าเห็นเงินสดเป็นสิ่งชั่วร้าย อย่าเอาเงิน 100% ไปลงทุนจนหมด
8. “ถือหุ้นบริษัทที่เรารัก แล้วเราจะมีความสุข” ถ้าศึกษาบริษัทนั้นมาดีแล้ว ช่วงคน panic ทุกตัวตกเกือบหมด หุ้นเราตก เราจะยังมีความสุข มีความหวัง เราจะรอจนกว่ามันจะกลับมาได้ ลองคิดในทางกลับกันดูสิ ถ้าหุ้นที่ซื้อมันทำอะไรก็ไม่รู้ ซื้อตามคนอื่น เวลามันตกเราดอย ความมั่นใจเราก็เสีย ยิ่งถือยิ่งทุกข์อีก
9. “เราซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร เรารู้ตัวเองดีที่สุด” ไม่ต้องไปถามใคร เช่น เราซื้อเพราะเอาปันผล ราคามันตกมาแต่เราได้ปันผลก็ถือไปสิ เช่น เราซื้อเพราะเก็งกำไร ถ้ามันตกมาถึงจุด cut ก็ออกไปสิ เช่นเราซื้อเพราะหวังผลระยะยาว ปลายปีจะฟื้น ซื้อวันนี้พรุ่งนี้ย่อ ก็ปล่อยไปก่อนสิ เป็นต้น ยิ่งถามคนอื่นยิ่งเขว
10. ความเห็นส่วนตัว…ตลาดยังไม่ CRISIS หรอก และตลาดก็ยังไม่ใช่ขาลงแบบชัด ๆ ….มองแค่การ “ปรับฐานใหญ่” จังหวะนี้เป็นจังหวะในการหาหุ้นดีที่ลงมาเกินจริง มากกว่าเป็นจังหวะที่จะขายเอาทุนคืน
สุดท้าย “ลงทุนแบบมีความสุข” ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
อะไรที่ทำแล้วมันทุกข์ก็เบาๆ ซะ เช่น ALL IN เหรียญ มีล้านซื้อล้าน แล้วต้องมานั่งเครียดดูกราฟทุกห้านาที แบบนี้ไม่ไหว…ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย เงินที่ได้มาและกับอะไรที่เสียไปเสมอ
และบางทีถ้าเงินมันเสียไป ไม่ได้อย่างที่คิด อันนั้นคือ เสียกับเสีย ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ส่วนใครที่ดอย ใครพอร์ตแดง ลุกขึ้นมาครับแล้วสู้ต่อ เป็นกำลังใจให้ครับ เดี่ยวมันก็ผ่านไป เริ่มต้นกันใหม่ได้เสมอครับ
