บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หนึ่งในผู้นำในการผลิตและส่งออกเนื้อสัตว์ และอาหารแปรรูปรายใหญ่ในภูมิภาคเอเซีย
*CPF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ถึงการเข้าซื้อกิจการของ Bellisio Parent, LLC.(Bellisio) โดยบริษัท และ/หรือบริษัทย่อยของ CPF โดยเป็นการซื้อทั้งหมด ซึ่งภายหลังการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ Bellisio และบริษัทย่อยของ Bellisio มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ CPF
*โดยจะเข้าซื้อเงินลงทุนทั้งหมดใน Bellisio จาก Bellisio Consolidated Equity, LLC ในราคารวมทั้งสิ้น 1,075 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.82 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 180 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์
*กลุ่ม Bellisio เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา ภายใต้เตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักทั่วไป เช่น Michelina's, Boston Market, Chilli's และ Atkins เป็นต้น รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีจุดเด่นด้านคุณภาพและโภชนาการ ภายใต้ตราสินค้า EatingWell และ EAT!
*นอกจากนี้ กลุ่ม Bellisio ยังเป็นผู้นำในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ในประเทศแคนาดาอีกด้วย
*ปัจจุบันกลุ่ม Bellisio มีโรงงานรวมทั้งสิ้น 4 แห่ง ตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐมินนิโซตา
*การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว คาดว่ากลุ่ม Bellisio จะเป็นฐานที่สำคัญของ CPF ในการเข้าสู่ตลาดธุรกิจอาหาร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก, รวมถึงจะเป็นช่องทางให้ CPF ส่งออกสินค้าของตนเองเข้าสู่ทวีปอเมริกาเหนือได้ โดยใช้เครือข่าย การกระจายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ค้าปลีกรายสำคัญของกลุ่ม Bellisio
*นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPF กล่าวในเอกสารเผยแพร่ว่า การผสมผสานจุดแข็งของ CPF และกลุ่ม Bellisio จะสามารถทำให้มีการผลิตสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอาหารเอเซียให้กับช่องทางจำหน่ายและเครือข่ายของทั้งสองกลุ่ม ทำให้มีโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและส่งออกไปทั่วโลก
*"การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของซีพีเอฟที่ต้องการขยายธุรกิจอาหารไปยังตลาดที่มีศักยภาพ สัดส่วนยอดขายของบริษัทหลังจากการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์จากการประมาณการเบื้องต้นนั้น จะทำให้สัดส่วนของธุรกิจอาหารของซีพีเอฟเพิ่มขึ้น" นายอดิเรก กล่าว
*ในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ มี J.P. Morgan เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ Davis Polk & Wardwell LLP เป็นที่ปรึกษากฎหมาย