ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะลึก ‘ร่างกฎหมายภาษีทรัมป์’ เสี่ยงพาสหรัฐ ‘ขาดดุลเพิ่ม 78 ล้านล้านบาท’

โดย อสรพิษ
เผยแพร่ :
15 views

เจาะลึก ‘ร่างกฎหมายภาษีทรัมป์’ เสี่ยงพาสหรัฐ ‘ขาดดุลเพิ่ม 78 ล้านล้านบาท’

By สุรินทร์ เจนพิทยา

 

เจาะรายละเอียด ‘ร่างกฎหมายภาษี ฉบับทรัมป์’ ที่อาจเปลี่ยนโฉมนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่ พร้อม ‘ภาษีล้างแค้น’ ที่อาจสะเทือนความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก ท่ามกลางเสียงเตือนว่า ร่างกฎหมายนี้เสี่ยงพาประเทศสู่ภาวะขาดดุลเพิ่มอีก 78 ล้านล้านบาทใน 10 ปีข้างหน้า

 

 

นอกจากการปะทุขึ้นของสงครามอิสราเอล-อิหร่านที่ทำให้สถานการณ์โลกตึงเครียดแล้ว บรรยากาศภายในรัฐสภาสหรัฐ ก็ระอุไม่แพ้กัน เมื่อร่างกฎหมาย “One Big Beautiful Bill Act” ที่ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดัน เพื่อลดภาษีครั้งใหญ่ให้ชาวอเมริกัน กำลังเป็นที่จับตาและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะมาตรา 899 หรือ “ภาษีล้างแค้น” (Revenge Tax) ในร่างฯ จุดชนวนให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างกว้างขวาง

สำหรับร่างกฎหมาย “One Big Beautiful Bill” สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (Congressional Budget Office) ประเมินว่า ร่างกฎหมายนี้ จะนำไปสู่การลดหย่อนภาษีจำนวนมหาศาล และลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก

แต่ในเหรียญอีกด้าน มีแนวโน้มทำให้งบประมาณสหรัฐขาดดุล “เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านล้านดอลลาร์” หรือราว 78 ล้านล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า และเสี่ยงทำให้มีผู้คนอีกราว 10.9 ล้านคน “ไม่มีประกันสุขภาพ”

ขณะที่โมเดลงบประมาณของเพนน์-วอร์ตัน (Penn Wharton Budget Model) คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นราว 0.4% ภายในปี 2034 แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน จะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณ เพิ่มขึ้นถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 104 ล้านล้านบาท

ในส่วนของ “ภาษีล้างแค้น” (มาตรา 899) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill มีวัตถุประสงค์เพื่อ “ขึ้นภาษีตอบโต้” ต่อประเทศที่สหรัฐมองว่า เรียกเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัทชาวอเมริกัน

แม้ว่ากลุ่มสนับสนุนจะคาดการณ์ว่า ภาษีนี้จะสร้างรายได้ในระยะสั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า นี่จะบั่นทอนความน่าดึงดูดใจของการลงทุนในสหรัฐอย่างรุนแรง และอาจนำไปสู่การไหลออกของเงินทุน การเทขายหุ้นในตลาดสหรัฐ และต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า นโยบายนี้จะสร้างความตึงเครียดทางการค้า และบ่อนทำลายความร่วมมือด้านภาษีระหว่างประเทศ  

แม็กซ์ โยเอลี นักวิจัยอาวุโสจากโครงการศึกษาภูมิภาคสหรัฐและอเมริกาของ Chatham House มองว่า “ภาษีล้างแค้น อาจเป็นภัยคุกคามที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติรู้สึกความไม่เป็นมิตร และอาจถอนตัวจากตลาดทุนสหรัฐ

โยเอลีเสริมอีกว่า มาตรานี้อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐซบเซาลง เนื่องจากทำให้เกิดการตั้งคำถามถึง “การเปิดกว้างขั้นพื้นฐาน” ของประเทศ

ในขณะนี้ ร่างกฎหมายภาษีทรัมป์ได้เข้าสู่ “ชั้นวุฒิสภา” แล้ว หลังจากผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแบบฉิวเฉียดด้วยคะแนนชนะเพียง “หนึ่งเสียง” เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน โดยในชั้นวุฒิสภาปัจจุบัน ได้มีการปรับแก้เพิ่มเติมจากชั้นสภาผู้แทนฯ สรุปเป็น 13 ข้อได้ดังนี้

1. เพิ่มเครดิตภาษีชิปจาก 25% เป็น 30%

ร่างวุฒิสภาเสนอให้ “เพิ่มเครดิตภาษี” เพื่อการลงทุนสำหรับผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ในการเป็นแรงจูงใจครั้งใหญ่สำหรับบริษัทชิปต่าง ๆ ให้หันมาตั้งฐานผลิตในสหรัฐ

มาตรการนี้จะเพิ่มเครดิตภาษีเป็น 30% ของการลงทุนในโรงงานผลิตชิป จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 25% ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตชิปเร่งก่อสร้างโรงงานใหม่ให้ทัน ก่อนเส้นตายเดิมในปี 2026

ทั้งนี้ บริษัทที่เริ่มโครงการภายในสิ้นปีหน้า จะยังคงสามารถใช้สิทธิเครดิตภาษีสำหรับการก่อสร้างต่อเนื่องหลังจากปี 2026 ได้ นโยบายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผลักดันให้เกิดการเริ่มต้นโครงการโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ก็เข้าใจดีว่า การสร้างโรงงานผลิตชิปนั้น ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการหลายปี

2. ลดความเข้มข้นของ “ภาษีแก้แค้น”

มาตรา 899 ในร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกเรียกขานว่า “ภาษีแก้แค้น” กำลังสร้างความกังวลให้กับนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท โดยหลายฝ่ายเตือนว่า มาตรการนี้อาจยิ่งซ้ำเติมความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ ที่ก่อนหน้านี้ก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าที่ผันผวนสูงของทรัมป์ และสถานะการคลังสหรัฐที่ทรุดตัวลงอยู่แล้ว

พรรครีพับลิกันในวุฒิสภาจึงปรับแก้ตามเสียงวิจารณ์ โดย “ชะลอและลดความเข้มงวด” ของภาษีดังกล่าวลง

จากเดิม ร่างของสภาผู้แทนฯ เสนอให้เริ่มเก็บภาษีเร็วกว่า และเพิ่มขึ้นจนแตะระดับ 20% ภายใน 4 ปี สำหรับบุคคลและบริษัทจากประเทศที่เป็นเป้าหมาย

แต่ร่างกฎหมายของวุฒิสภาเสนอให้ “เลื่อนการบังคับใช้ภาษีใหม่นี้” ไปจนถึงปี 2027 (สำหรับผู้ยื่นภาษีตามปีปฏิทิน) และจะทยอยเพิ่มอัตราภาษีขึ้นปีละ 5 จุดเปอร์เซ็นต์ จนถึงเพดานสูงสุดที่ 15%

3. ลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถใหม่

ชั้นวุฒิสมาชิกต้องการจำกัดสิทธิลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ไว้ “เฉพาะรถใหม่” เท่านั้น สำหรับมาตรการที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว ซึ่งอนุญาตให้ผู้ซื้อรถยนต์ สามารถลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ได้สูงสุด 10,000 ดอลลาร์ต่อปี จนถึงปี 2028 สำหรับรถที่ผลิตในสหรัฐ

4. ยกเลิกเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

ต่างจากยุคโจ ไบเดน รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาดได้รับการอุดหนุนเต็มที่ แต่ในร่างกฎหมายของวุฒิสภายุคทรัมป์ จะ “ยกเลิกเครดิตภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์” สำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมภายใน 180 วัน หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งต่างจากร่างของสภาผู้แทนฯ ที่ให้เครดิตนี้หมดอายุสิ้นปี สำหรับรถส่วนใหญ่

5. ลดหย่อนภาษีเงินประกันสังคม

ในระหว่างการหาเสียง ประธานาธิบดีทรัมป์ให้คำมั่นว่า จะ “ยกเลิกการเก็บภาษี” จากรายได้ประกันสังคม ซึ่งเป็นเงินที่จ่ายรายเดือนให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ

แม้ว่าร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะยังไม่สามารถทำตามคำสัญญานั้นได้เต็มที่ แต่ก็ได้ “เพิ่มค่าลดหย่อนชั่วคราว” ให้กับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป สูงสุดถึง 4,000 ดอลลาร์ โดยจะมีผลตั้งแต่ปี 2025-2028

อย่างไรก็ตาม ค่าลดหย่อนนี้จะเริ่มลดลงเมื่อรายได้เกิน 150,000 ดอลลาร์ สำหรับคู่สมรสที่ยื่นภาษีร่วมกัน และเมื่อรายได้เกิน 75,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ยื่นแบบรายบุคคล

เมื่อร่างมาถึงสภาสูง พรรครีพับลิกันในวุฒิสภา กำลังพิจารณาขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินประกันสังคม โดยเสนอให้ “เพิ่มค่าลดหย่อนเป็น 6,000 ดอลลาร์” สำหรับผู้สูงอายุในอเมริกา

6. ไม่เก็บภาษีค่าล่วงเวลาและทิป

ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินการตามหนึ่งในคำมั่นสำคัญของปธน.ทรัมป์ นั่นคือ ยกเลิกการเก็บภาษีจากค่าล่วงเวลาและเงินทิป

ต่อมา ร่างกฎหมายของวุฒิสภาได้ใส่ “ข้อจำกัดใหม่” ต่อคำมั่นของทรัมป์ที่ว่า จะยกเว้นภาษีจากเงินทิปและค่าล่วงเวลา โดยกำหนดเพดานรายได้ที่สามารถได้รับการยกเว้นภาษีไว้ดังนี้

- เงินทิปไม่เกิน 25,000 ดอลลาร์ต่อบุคคล

- ค่าล่วงเวลาไม่เกิน 12,500 ดอลลาร์ต่อบุคคล หรือ 25,000 ดอลลาร์ต่อคู่สมรส (รวมกัน)

สิทธิประโยชน์ทางภาษีเหล่านี้จะเริ่มลดลงหากรายได้เกิน 150,000 ดอลลาร์สำหรับบุคคล และ 300,000 ดอลลาร์สำหรับคู่สมรส และเช่นเดียวกับร่างกฎหมายของสภาผู้แทนฯ มาตรการเหล่านี้จะหมดอายุหลังปี 2028

7. ลดหย่อนภาษีธุรกิจเป็นการถาวร

คณะกรรมาธิการมีแผนที่จะขยายมาตรการลดหย่อนภาษีที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ 3 รายการชั่วคราว ให้เป็น “ถาวร” ซึ่งตามร่างกฎหมายของสภาผู้แทนฯ จะสิ้นสุดลงหลังจากปี 2029 โดยมาตรการเหล่านี้รวมถึง

- การหักค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา

- การใช้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย เป็นฐานสำหรับการหักดอกเบี้ย

- การหักค่าเสื่อมราคาแบบพิเศษ 100% สำหรับสินทรัพย์บางประเภท เช่น เครื่องจักรและโรงงานส่วนใหญ่

8. เครดิตภาษีสำหรับการมีบุตร

ทั้งร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต่างก็มีเป้าหมายที่จะเพิ่มเครดิตภาษีสำหรับบุตร แต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน

ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรเสนอให้ เพิ่มเครดิตภาษีสำหรับบุตรเป็น 2,500 ดอลลาร์ แต่สิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะลดลงหลังปี 2028

ขณะในส่วนของวุฒิสภา เสนอให้เพิ่มเครดิตภาษีต่อบุตรหนึ่งคนจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,200 ดอลลาร์ โดยให้มีผล “ถาวร” และจะมีการปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อในปีต่อ ๆ ไป

9. ‘ลดวงเงิน’ ลดหย่อนภาษีระดับมลรัฐและท้องถิ่น

พรรครีพับลิกันในวุฒิสภาต้องการ “ลดวงเงิน” การลดหย่อนภาษีระดับมลรัฐและท้องถิ่น (State and Local Tax) จากร่างของสภาผู้แทนฯ ที่กำหนดไว้ที่ 40,000 ดอลลาร์ลง ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐที่มีภาษีสูง เช่น นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และแคลิฟอร์เนีย พยายามคัดค้าน

ในร่างของวุฒิสภา มีการเสนอเพดานหักลดหย่อนภาษีระดับมลรัฐและท้องถิ่น ให้เหลืออยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ โดยผู้นำในวุฒิสภาระบุว่า ตัวเลขนี้เป็นเพียง “ตัวเลขชั่วคราว” ที่ใช้สำหรับการเจรจาประนีประนอม

10. ตัดลดงบ Medicaid

 ร่างกฎหมายของวุฒิสภาที่เสนอ มีการตัดลดงบประมาณสำหรับ “โครงการประกันสุขภาพสำหรับคนยากจน และผู้พิการ” (Medicaid) ให้ “มากกว่า” ร่างที่ฝ่ายรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรเคยเสนอไว้ เพื่อช่วยเสริมงบประมาณลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ในด้านอื่น 

นอกจากนี้ ร่างวุฒิสภายังกำหนดว่า ผู้ปกครองที่มีบุตรอายุ 15 ปีขึ้นไป จะต้องทำงานหรือทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างน้อย 80 ชั่วโมงต่อเดือน จึงจะมีสิทธิรับความคุ้มครองสุขภาพผ่าน Medicaid

11. เก็บภาษีเงินบริจาคของมหาวิทยาลัย

 ร่างกฎหมายของวุฒิสภาได้ลดขนาดการขึ้นภาษีอย่างมาก จากแผนของสภาผู้แทนฯ ที่จะเก็บภาษีรายได้การลงทุน ที่มาจาก “กองทุนรับบริจาค” ของมหาวิทยาลัยเอกชน ที่ระดับสูงสุดถึง 21% แต่ร่างของวุฒิสภาเสนอให้ จำกัดการขึ้นภาษีนี้ไว้ “ไม่เกิน 8%” เท่านั้น

12. สิทธิประโยชน์ภาษีสำหรับซื้อปืน

 ร่างกฎหมายฉบับวุฒิสภาจะ “ยกเลิกภาษีและข้อบังคับบางประการ” ที่ใช้กับอาวุธปืนและอุปกรณ์เก็บเสียงหลายประเภท ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติอาวุธปืนแห่งชาติปี 1934 (National Firearms Act of 1934) ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายสนับสนุนสิทธิในการครอบครองอาวุธปืน

13. ขยายเพดานหนี้อีก 160 ล้านล้านบาท

ในร่างกฎหมายของวุฒิสภา มีการเสนอให้ “เพิ่มเพดานหนี้” ของรัฐบาลกลางสหรัฐขึ้นอีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ หรืออีกราว 160 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของสภาผู้แทนราษฎรที่เสนอเพิ่ม 4 ล้านล้านดอลลาร์

ทางรัฐสภา จำเป็นต้องดำเนินการภายในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อยกระดับเพดานหนี้ มิฉะนั้น สหรัฐจะเสี่ยงต่อการ “ผิดนัดชำระหนี้”

ในขณะนี้ พรรครีพับลิกันในวุฒิสภากำลังเร่งสรุปร่างกฎหมายฉบับที่ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันให้เสร็จทัน ก่อนที่จะนำเข้าสู่การลงมติในที่ประชุม โดยตั้งเป้าให้ทัน “เส้นตายวันที่ 4 กรกฎาคม” ที่พวกเขากำหนดขึ้นเอง ซึ่งตรงกับ “วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐ” เพื่อจะสามารถส่งร่างกฎหมายถึงโต๊ะของทรัมป์ให้ลงนามได้ตามแผน

อ้างอิง: apbbcbloombergbloomberg(2)abcnewsguardian

 

ที่มา..  https://www.bangkokbiznews.com/world/1185502

 


อสรพิษ