ห้องเม่าปีกเหล็ก

โบรกสแกนหุ้นได้-เสียประโยชน์ ‘เงินเฟ้อ’ ลงทุนสู้ดอกเบี้ยขาขึ้น

โดย Durant
เผยแพร่ :
61 views

โบรกสแกนหุ้นได้-เสียประโยชน์ ‘เงินเฟ้อ’ ลงทุนสู้ดอกเบี้ยขาขึ้น

นักวิเคราะห์ประเมินหุ้นได้-เสียประโยชน์เงินเฟ้อ หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์ แนะนำ "แบงก์-ประกัน-สินค้าโภคภัณฑ์" หลีกเลี่ยงอสังหาฯ-กองรีท-อินฟราฟันด์-ไฟแนนซ์

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (10-14 ม.ค.2565) ดัชนี SET (SET Index) เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ 0.94% มาอยู่ที่ 1,672.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 4.2 แสนล้านบาท ระหว่างสัปดาห์ทดสอบจุดสูงสุดที่ 1,682.46 จุด และต่ำสุดที่ 1,654.05 จุด

โดยความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาดการณ์ จากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในปัจจัยแวดล้อมสำคัญที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของดัชนี ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในยามที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายอย่างธนาคารกลาง ต่างต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะดังกล่าว

ท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น คาดว่ากลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะได้ประโยชน์โดยตรงจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ปรับขึ้น รองลงมาคือกลุ่มประกัน เพราะได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ที่ปรับขึ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่กลุ่มประกันมีสัดส่วนการลงทุนมากที่สุดในพอร์ต

อีกหนึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะได้ประโยชน์จากราคาพลังงานและราคาโลหะที่ปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ ซึ่งในอดีตกลุ่มนี้สามารถปรับขึ้นราคาขายสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้

ขณะที่กลุ่มที่คาดว่าจะเสียประโยชน์ คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (กองรีท) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) โดยเฉพาะกองรีทที่กำหนดระยะเวลาการเช่า (Leasehold)

เพราะนอกจากการประเมินมูลค่ากองที่ลดลงแล้ว ยังมีความเสี่ยงไม่สามารถปรับเพิ่มค่าเช่าให้เท่าทันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนที่ได้จากกองรีทเมื่อเทียบกับบอนด์ยิลด์ (Yield Gap) ลดลง

รวมถึงกลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภค (Consumer Finance) ที่ต้นทุนการกู้ยืม ได้แก่ เงินกู้ธนาคาร และหุ้นกู้ ปรับขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยในตลาด

สำหรับหุ้นเด่นแนะนำของกลุ่มที่ได้ประโยชน์ กลุ่มแบงก์แนะนำธนาคารขนาดใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงเทพ (BBL) ส่วนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์แนะนำ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) และ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ คาดว่ากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันที่ราคาปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ รองลงมาคือกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

โดยหุ้นเด่นแนะนำในกลุ่ม กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ส่วนกลุ่มธนาคาร แนะนำ SCB และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากประเด็นเงินเฟ้อแล้ว แนะนำผู้ลงทุนประเมินปัจจัยแวดล้อมของแต่ละกลุ่มประกอบก่อนการลงทุน

 


Durant