ห้องเม่าปีกเหล็ก

จับจังหวะลงทุน 5 หุ้น SET100 เป้าหมายนักลงทุนต่างชาติ

โดย Khal
เผยแพร่ :
298 views

จับจังหวะลงทุน 5 หุ้น SET100 เป้าหมายนักลงทุนต่างชาติ เตรียมลุยซื้อหุ้นไทยอีก 4 หมื่นล้านบาท

 

จากกรณีที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยให้กับ Wealthy Thai ฟังว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีผลทำให้บัญชีนักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในปีนี้กว่า 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการทยอยซื้อกลับหลังจากที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยกว่า 3.1 แสนล้านบาท


ดังนั้นเองจึงเป็นคำถามว่า เมื่อในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีกระแสเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยอีกกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทนั้น หุ้นกลุ่มไหน หรือหุ้นตัวไหนจะตกเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติในการซื้อครั้งนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้มุมมองว่าการที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยในปีนี้เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมามีสถานะการขายออกเยอะ และตอนนี้เศรษฐกิจของไทยกำลังจะเริ่มฟื้นตัวแต่ยังไม่เท่าช่วงก่อนที่จะมี covid-19


โดยก็สะท้อนให้เห็นว่าหุ้นตัวไหนที่ราคาหุ้นยังไม่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหมือนในช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ประกอบกับเป็นกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนได้ตามนโยบายที่วางไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์ได้แนะนำ 5 หุ้นในกลุ่ม SET100 ที่คาดการณ์ว่าจะตกเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในครั้งนี้ ซึ่งหุ้นเหล่านี้ประกอบไปด้วย BBL-HMPRO-PLANB-LH และ CRC ซึ่งในมุมพื้นฐานจะเป็นอย่างไร และราคาเป้าหมายไว้ที่เท่าไหร่ Wealthy thai จะพาไปหาคำตอบ


เริ่มกันที่ BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นยังซื้อขายกันที่ PBV เพียง 0.5 เท่า โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มอง BBL เป็นหุ้นแบงก์ที่มีความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อต่ำกว่ากลุ่ม


อีกทั้งด้วยระดับCoverage Ratio ที่แข็งแกร่ง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดการตั้งสำรองลงต่อเนื่อง ขณะที่ ราคาหุ้นซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 0.5เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม โดยประเมินราคาพื้นฐานปี 2565 ที่ 155 บาท พร้อมคาดจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท คิดเป็น Div. Yield1.5% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"


ขณะที่ HMPRO นักวิเคราะห์แนะนำ "เก็งกำไร" ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม และผลประกอบการในไตรมาส3/65 ที่ส่วนหนึ่งจากฐานต่ำและยอดขายที่ฟื้นตัวหลังการเปิดเมือง และเริ่มเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสต่อยอดขายสาขาเดิม และผลประกอบการในไตรมาส 4/65 รวมถึงยอดขายที่ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปีใหม่และท่องเที่ยว ราคาเหมาะสม ปี 2565 ที่ 15 บาท


สำหรับ PLANB คาดผลประกอบการในงวดครึ่งปีหลัง จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก และเติบโตเด่นจากปีก่อนเนื่องจากผลบวกจากการเปิดประเทศ ทำให้กิจกรรมการตลาด และอีเว้นท์กลับมาจัดได้ตามปกติ รวมถึงสื่อในสนามบินที่เริ่มกลับมาทำรายได้อีกครั้งจากที่ขาดทุนในครึ่งแรก ล่าสุค PLANB ร่วมกับบริษัทย่อย AM ตั้งบริษัทย่อย TRIPLE PLAY ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัทEXIT 365 ร่วมผลิตรายการ The Voice AIl Star ให้กับช่อง ONE คาดรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/65


ส่วน LH นักวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการกำไรปกติในงวดครึ่งปีแรก ที่คิดเป็น 52% จากประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ที่ 7.2 พันล้านบาท และแผนเปิดตัวโครงการแนวราบที่หนาแน่นในช่วงครึ่งปีหลัง จะช่วยเร่งการเติบโตของทั้ง Presale และยอดโอนกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ ธุรกิจห้างสรรพสินค้าและโรงแรมคาดฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญแตะระดับ 1.0 ล้านคน/เดือน อาจเป็น Upside risk ต่อผลประกอบการปี 2565 ราว 5-10%


ปิดท้ายกันที่ CRC สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/65 คาดยอดขายสาขาเดิมยังเป็นบวกสูงต่อเนื่องใน เดือน ก.ค ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 50%  อีกทั้งทุกธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากในงวดไตรมาส 3/64 ที่ยอดขายสาขาเดิมลดลง 23% จากปีก่อน จากผลกระทบการ Lock down ทำให้ห้างสรรพสินค้าไม่สามารถเปิดได้ตามเวลาปกติ และการจำกัดประเภทสินค้าขาย

 

 

 


Khal