ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตลาดแตกทีไร…ทำไม Money Management จึงสำคัญ

โดย โจ๊กเกอร์
เผยแพร่ :
50 views
ตลาดแตกทีไร…ทำไม Money Management จึงสำคัญ
 
 
1. คนส่วนใหญ่ในตลาดเวลาพูดถึงหุ้นตัวนึงจะเอา “กราฟ” มาดู ตีแนวรับ ตีแนวต้าน หาจุดซื้อที่แม่นยำที่สุด หาจุดขายที่ดีที่สุด….คนส่วนใหญ่วิ่งเข้าหา TECHNICAL ที่สำคัญเพียงแค่ 10% แต่ที่เหลือ คือ MINDSET กับ MONEY MANAGEMENT อย่างละ 50% และ 40% นี่แหละที่เป็นตัว “ชี้เป็นชี้ตาย” ว่าพอร์ตใครจะโต พอร์ตใครจะแตก
 
2. MM ที่สอนเสมอคือเราแบ่งเงินเป็น 4 ส่วน กองหน้า กองกลาง กองหลัง และผู้รักษาประตู ยังไงก็ต้องแบ่งแบบนี้เสมอเพื่อ “กระจายความเสี่ยง” และ “ควบคุมความโลภ”
 
3. ก่อนจะไปลงทุนคุณใช้หลักของ Savings แล้วหรือยัง….คำนวณดูในแต่ละเดือนคุณมีรายจ่ายกี่บาท แล้วคูณ 6 เข้าไป แน่นอนคุณต้องมีเงินจำนวนนี้อยางน้อย 6 เดือนอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องทำงาน เผื่อวันนึงไม่สามารถทำงานได้ หรือออกจากงานกะทันหัน
 
4. หลังจากนั้นค่อยแบ่งเงินมาลงทุน ส่วนมากก็ประมาณ 30% ของเงินทั้งหมด…บางคนบอก โอย น้อยไป หน้าที่ของคุณคือต้องไปลดเงินสัดส่วนอื่นที่ฟุ่มเฟือยออก หรือไปหาเงินแต่ละเดือนเพิ่ม แต่ห้าม….กู้ยืมหรือใช้ margin เด็ดขาดถ้าไม่แน่พอ
 
5. ผู้รักษาประตู….หรือประกันชีวิต 10% ที่จะต้องมี อย่าเป็นคนที่มีหนึ่งล้าน เอาเงินหนึ่งล้านไป ALL IN เพราะเราไม่มีวันรู้อนาคต เราจะเจ็บป่วย จะไม่อยู่บนโลกนี้วันไหน คนข้างหลังจะอยู่อย่างไร ดังนั้น 10% คือเงินที่ต้องแบ่งเอามาเสมอ
 
6. กองหลัง 40% STORE OF WEALTH ไม่มีวันขาย กระจายสินทรัพย์ที่ปกป้องคุณจากเงินเฟ้อ และสามารถให้ผลตอบแทนหรือปันผลอย่างน้อย 10% ต่อปี เช่น ทองคำ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หุ้นปันผล กองทุนปันผล หรือบิตคอยน์ (ป้องกันดราม่าและการอ่านไม่เคลียร์ บอกแล้วว่ากระจายความเสี่ยง ส่วนตัวแบ่ง "เงินทิ้งเงินขว้าง" มาสะสมเอาไว้ 1 - 2% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เสียหมดก็ไม่ได้ แต่อย่าให้ได้) ซื้อแบบ DCA เพื่อป้องกันความผันผวน เก็บเป็นมรดกให้ลูกให้หลาน
 
7. กองกลาง 30% เป็น Speculate account เอาไว้เก็งกำไร เล่นรอบ ก็หาหุ้นที่รอบยาวหน่อยปีหนึ่งซื้อขายสักครั้งหรือสองครั้ง เป็นการลงทุนกึ่งเก็งกำไร แบ่งกระจายสักไม่เกิน 10 ตัว
 
8. กองหน้า 20% เป็น Gambling account กึ่ง ๆ พนัน เอาไว้เทรดหุ้นเล็กหุ้นซิ่ง มีสัก 5 ตัว เอาไว้หาค่าน้ำร้อนน้ำชา อย่าไปหวังรวยจากหุ้นพวกนี้ และที่สำคัญระวังลุกช้าจ่ายรอบวง ผิดทางต้องออก CUT คือวินัย ไม่มีข้อต่อรอง….ทุกวันนี้เราพลาดกัน เพราะหลายคน ALL IN แต่หุ้นแบบนี้ หรือ ALL IN ในหุ้นซิ่งตัวเดียว
 
9. ถ้าแบ่งแบบนี้จะไม่มีคำถาม “วันนี้ถือเงินสดกี่ % ถือหุ้นกี่ %” เพราะสินทรัพย์คนเรากระจายความเสี่ยงได้หลายอย่างตามที่อธิบายไว้ด้านบนแล้ว ไม่ใช่มีแค่ข่าวกับดำ หรือหุ้นกับเงินสด
 
10. ถ้า MM ได้ดี ไม่ว่าตลาดจะลงแค่ไหน จะเกิด PANIC SELL ก็อาจได้รับผลกระทบบ้างหรือแทบไม่ได้ผลกระทบเลย หรือแม้กระทั่งเกิด RECESSION ความมั่งคั่งก็ลดลงนิดหน่อย แต่แน่นอน เราจะยืนยาวได้ไปพร้อม ๆ กับตลาด ตลาดลงเราเจ็บไม่มาก ตลาดขึ้นเราก็ไม่ได้หวังมาก แต่แค่ 10 -20% ต่อปีโดยเฉลี่ยแบบดอกเบี้ยทบต้น แค่นี้ก็มหาศาลแล้ว
 
 
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก..

รวยหุ้นง่าย ๆ สไตล์ Dr.A


โจ๊กเกอร์