SET เป็นจังหวะของการปรับฐาน จะถอยหรือจะสู้

บทวิเคราะห์ของ KS ครับ ..

Daily View 22.02.2021 >>> SET Index เข้าสู่ช่วงปรับฐาน / สัปดาห์นี้คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,490-1, 520จุด วันนี้แนะ SCB, PSL

-- ท่ามกลางคาดหวังของนักลงทุนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชากรในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยตั้งแต่ต้นปีดัชนี MSCI ACWI ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.18% ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.75% มากกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (Developed Markets) ที่ปรับตัวขึ้น +4.33% ส่วนหนึ่งเรามองว่ามาจากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้น EM ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำถูกเทขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง

--- โดยล่าสุดวัคซีนได้ถูกฉีดให้กับประชากรแล้วกว่า 200 ล้านโดส 107 ประเทศทั่วโลก นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งทำการฉีดวัคซีนให้กับประชากรแล้วจำนวนกว่า 59.6 ล้านโดส คิดเป็น 13% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยเราพบว่ายอดผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศที่ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วชะลอตัวลดลง รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งด้านการผลิตและการบริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยในสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนี Composite PMI ในเดือนก.พ. ออกมาที่ระดับ 58.8 สูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ประกอบกับยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนม.ค. มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.1% ขณะที่ล่าสุดเราพบว่า Bond yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 bps. แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 1.34% ส่งผลให้ Bond yield อายุ 10 ปีของไทยปรับตัวขึ้น 12 bps. แตะจุดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 1.50% ด้วยเช่นกัน ซึ่งในกรณีนี้เรามองว่า Bond yield ที่ปรับเพิ่มขึ้นจะส่งผลบวกกับหุ้นกลุ่มประกัน และธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ จากผลตอบแทนของพอร์ทการลงทุนที่สูงขึ้น และความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี เรามองว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Bond yield จะส่งผลกดดันต่อส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของหุ้นกับพันธบัตร (Earning yield gap) ซึ่งในระยะสั้นเราคาดว่าอาจเห็น SET Index ปรับตัวพักฐานในกรอบบริเวณ 1,500จุด+/- ขณะที่ในระยะยาวเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยมองกรอบเป้าหมาย SET Index ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 1,610 จุด แนะติดตามการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดในปีนี้อีกครั้ง หลังจบช่วงของการรายงานผลประกอบการ ช่วงนี้แนะลงทุนในหุ้นกลุ่มประกัน (BLA) และธนาคาร (KKP KTB SCB) ซึ่งคาดว่าจะได้ผลบวกจาก Bond yield ขาขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTTGC PTTEP TOP) จากปัจจัยบวกซึ่งจะช่วยหนุนราคาน้ำมันอย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ, การคลายล็อกดาวน์ในหลายๆ ประเทศหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง และสภาวะอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐฯ ซึ่งกระทบการผลิตน้ำมันดิบกว่า 4 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สต็อกน้ำมันปรับตัวลดลง รวมถึงเพิ่มอุปสงค์การใช้น้ำมันให้ความร้อน (heating oil)

---------------------------

มุมมองตลาดหุ้น / กลยุทธ์การลงทุน สัปดาห์นี้คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,490 -1,520 จุด แนะ SCB, PSL

หุ้นแนะนำ
SCB (พื้นฐาน 117.00 บาท) กำไรไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 4.97 พันลบ.(+7% QoQ, -10% YoY) ดีกว่าคาด 26% โดยได้รับแรงหนุนมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับดีขึ้น จากธุรกิจประกันผ่านธนาคารและ wealth management ที่แข็งแกร่ง รวมถึงค่าธรรมเนียมสินเชื่อ นอกจากนี้ จากแผนการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดของบริษัท เราได้ปรับลดสมมติฐาน credit cost ลงในปี 2564 ตามแนวทางของผู้บริหารที่คาดว่า credit cost ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

PSL (พื้นฐาน 10.80 บาท) กำไรของบริษัทฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 64 ลบ. ในไตรมาส 4/63 จากขาดทุนที่ 22 ลบ. ในไตรมาส 3/63 จากอัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น 14% QoQ ใน 4Q20 ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา นอกจากนี้ เราได้ทำการปรับประมาณการกำไรปี 64-65 ขึ้น 47%/57% หลังปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าของ PSL ขึ้น 4%/8% เป็น 12,163 ดอลลาร์ฯ และ 12,975 ดอลลาร์/ลำ/วัน ตามลำดับ จากการเติบโตของอุปสงค์จากจีนที่แข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) ที่ลดลง