ภาษีนำเข้าทรัมป์จัดให้ไม่ลด
ไทยโดนที่ 36% ตามคาด
ทรัมป์ ทยอยประกาศรายชื่อประเทศที่จะถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ที่สูงรวมถึงไทย โดยไทยจะยังคงถูกจัดเก็บที่อัตรา 36% ภาษีนำเข้านี้จะเริ่มจัดเก็บในวันที่ 1 ส.ค. กลุ่มประเทศเหล่านี้รวมถึงไทยยังคงมีเวลาในการเจรจาข้อตกลงการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญภาษีนำเข้าที่สูง
ความเสี่ยงด้านลบต่อประมาณการ GDP / EPS
ในกรณีที่ไทยเผชิญภาษีสูงกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค เราเห็นความเสี่ยงเชิงลบต่อประมาณการ GDP ที่อาจลดลงอยู่ในช่วง 1.1–1.3% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 1.4% นอกเหนือจากภาคส่งออกแล้ว อาจเห็นการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชน, การบริโภค
ในขณะที่ประเมิน Downside ของกำไรต่อหุ้นของตลาด (EPS) ที่ 85.0 จากเดิมที่ 88.0 โดยกลุ่มที่มีผลกระทบนำโดย กลุ่มส่งออก กลุ่มธนาคาร กลุ่มที่อยู่อาศัย และกลุ่มการเงิน
การประเมินมูลค่าและแนวโน้มของ SET
เราประเมิน 2 แนวรับสำคัญนำโดยบริเวณ 1,105+/- (EPS ที่ 85.0 บน PER 13x) และ 1,050+/- (PBV ที่1.0x)
แต่หากสถานการณ์คลี่คลาย กล่าวคือเราสามารถเจรจาการค้าเพื่อลดช่องว่างของ Tariff (%) ระหว่างเรากับภูมิภาคลงมาได้ คาดว่า SET มีโอกาสตอบรับเชิงบวก โดยประเมินกรอบการซื้อขายอยู่ที่บริเวณ 1,145+/- และสำหรับกรณีที่เราสามารถเจรจาภาษีลงไปในกรอบ 10-20% SET จะมี Upside ขึ้นไปซื้อขายกรอบ 1,210+
กลยุทธ์การลงทุน
ภาษีนำเข้านี้จะเริ่มจัดเก็บใน 1 ส.ค. กลุ่มประเทศเหล่านี้รวมถึงไทยยังคงมีเวลาในการเจรจาข้อตกลงการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญภาษีนำเข้าที่สูง และหากผลการเจรจาก่อน 1 ส.ค.ออกมาใหม่ เราแนะนำกลยุทธ์การลงทุน 2 กรณี
กรณีที่ 1) ส่วนต่างภาษีไทยกับภูมิภาค < 10%
ประเมินว่า SET แกว่ง sideway กรอบ 1,100-1,145 จุด โดยแนะกลุ่มหุ้นนิคมอุตสาหกรรม และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย
AMATA : แนวรับที่ 0.7 BV @13.40
KCE: แนวรับที่ -0.5 SD @17.00
กรณีที่ 2) ส่วนต่างภาษีไทยกับภูมิภาค >10%
หากว่าส่วนต่างภาษีเพิ่มขึ้น (ประเทศไทยไม่สามารถเจรจา ในขณะที่ประเทศอื่นเจรจาได้) คาดส่งผลให้ SET ปรับตัว sideway down โดย 2 กรอบแนวรับสำคัญคือ บริเวณ 1,105 (EPS85,13x) และ 1,050 (1.0PBV)
ชุดหุ้นแนะนำของเราเป็นลักษณะ Defensive และมี Downside ต่อประมาณการไม่ถึง 10% นำโดย TRUE, ADVANC, TISCO, PR9, CENTEL, PTT, CK, CPN
