Stocks slammed on Fed rate hike fears
The first trading week of the fall ends with a massive thud, with stocks selling off. We break down today’s big market drop, and why this could be the start of a rocky September. Plus – Wells Fargo whacked – the bank embroiled in a massive fees scandal, why one analyst says this ‘outrageous’ behavior means sell the stock. And – is the Uber onslaught over? Why the Silicon Valley unicorn could be in trouble. Catch The Final Round with Jen Rogers, markets correspondent Nicole Sinclair, columnist Rick Newman, and Greg Spiegel, Portfolio Manager at Neuberger Berman.
Winners and losers
Stocks getting hit along with the broader market include petroleum refiner PBF Energy on a downgrade to sell by Goldman Sachs, pipeline operator Williams Companies after Enterprise Products Partners announced it is no longer pursuing a merger deal with its rival, and GW Pharmaceuticals. Shares of the medical firm lower after The Daily Mail initially reported a company spokesman dismissed buyout speculation.
Stocks bucking the rough tape today include home-furnishings company Restoration Hardware on an earnings beat, with revenues and margins coming in ahead of consensus, sportswear retailer Zumiez after topping expectations on both its top and bottom lines and Deutsche Bank. Shares higher after media reports that the German bank is nearing a settlement with US authorities on the sale of residential mortgage-backed securities. The fine could be above $2.38 billion, according to reports.
Looking ahead
- We’ll get some potentially market moving Fed speak on Monday. Atlanta Fed President Dennis Lockhart, Minneapolis Fed President Neel Kashkari, and Fed Governor Lael Brainard will all be giving speeches before the FOMC blackout period begins.
- And on Friday we’ll get a gauge on inflation with the consumer price index for August. The previous month saw a 2.2% gain year over year in the core reading, which backs out volatile food and energy prices.
- Finally, next week Ford Motor Company’s sixth annual Further with Ford Trend Conference begins in Dearborn, Michigan. (FS) We’ll have special live reports and behind the scenes access, including a test drive of the new Fusion Autonomous, Ford’s first self-driving car. Plus live interviews with Ford CEO Mark Fields and Executive Chairman Bill Ford.
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 394.46 จุด เหตุวิตกเฟดขึ้นดบ. 20-21 ก.ย.นี้
เสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 06:14:29 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงแรงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหุ้น อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. ภายหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,085.45 จุด ลดลง 394.46 จุด หรือ -2.13%% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,127.81 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -2.45% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,125.91 จุด ลดลง 133.57 จุด หรือ -2.54%
สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.2%, S&P 500 ลดลง 2.4% และ Nasdaq ลบ 2.4%
ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความวิตกกังวลในตลาดวอลล์สตรีท ทะยานขึ้น 39.98% ปิดที่ 17.50 ในวันศุกร์
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงเกือบ 400 จุด ซึ่งเป็นการลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่รู้ผลการลงประชามติ Brexit เมื่อเดือนมิ.ย. โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากการที่นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวเตือนว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม
นายโรเซนเกรนระบุว่า ขณะนี้เฟดเผชิญความเสี่ยงใน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เฟดก็เผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจร้อนแรงเกินไป หากเฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเกินไป
นายโรเซนเกรนยังกล่าวว่า "หากเราต้องการมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ การคุมเข้มนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ"
ประธานเฟดบอสตันไม่ได้ระบุว่าเขาคาดหวังให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหรือไม่ แต่ถ้อยแถลงของเขาสอดคล้องกับสิ่งที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น
ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นายแคปแลนกล่าวว่า การที่มีปัจจัยกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้ามาก
ประธานเฟดดัลลัส ยังกล่าวว่า รายงานการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น และขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2% จึงคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อยๆปรับตัวขึ้นต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้เพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ หลังคำกล่าวของนายโรเซนเกรน และนายแคปแลน
ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 24% จากเดิมที่ 18%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ค. ทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐถูกถ่วงลงจากการดิ่งลงของสินค้าภาคการเกษตร และภาคปิโตรเลียม แต่สต็อกรถยนต์ปรับตัวขึ้น
ส่วนยอดขายภาคค้าส่งลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ อัตราส่วนสต็อกสินค้าคงคลังเทียบยอดขายอยู่ที่ระดับ 1.34 หมายความว่า จะต้องใช้เวลา 1.34 เดือนในการเคลียร์สต็อกสินค้า โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.33 เดือนในมิ.ย.
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสื่อสารร่วงลงกว่า 3% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 2.8% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงราว 4% เมื่อคืนนี้
หุ้นใหญ่ต่างปรับตัวลงถ้วนหน้า นำโดยหุ้นเวอไรซอน ลบ 3.3% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ลบ 0.21%
เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวไม่ขึ้น พูดไปทั่วหนอปากคน
DJI 18,085.45-394.46 (-2.13%)




เสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 09:35:11 น.
คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภค (CPSC) ของสหรัฐอเมริกาเตือนผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note 7 ให้ปิดเครื่อง และหยุดชาร์จหรือหยุดใช้โทรศัพท์ หลังมีรายงานปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรีร้อนจัดจนไฟลุกไหม้
"เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ทั้งขณะชาร์จแบตและใช้งานปกติ เราจึงขอให้ผู้บริโภคหยุดใช้อุปกรณ์ Note 7" CPSC ระบุในแถลงการณ์
CPSC ระบุด้วยว่า ทางหน่วยงานกำลังทำงานร่วมกับซัมซุง เพื่อประกาศเรียกคืนอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้
"CPSC กำลังเร่งดำเนินงาน เพื่อตัดสินใจว่าการเปลี่ยนเครื่อง Galaxy Note7 ให้กับผู้บริโภคนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่สามารถยอมรับได้หรือไม่"
คำเตือนจาก CPSC มีขึ้นหลังจากที่องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ได้ออกมาเตือนผู้โดยสารเครื่องบินไม่ให้เปิดหรือชาร์จสมาร์ทโฟน Galaxy Note 7 ขณะอยู่บนเครื่องบิน นอกจากนี้ยังไม่แนะนำให้เก็บสมาร์ทโฟนดังกล่าวในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง หลังจากซัมซุงประกาศเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวทั่วโลก เนื่องจากปัญหาแบตเตอรี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ซัมซุงประกาศเรียกคืน Galaxy Note 7 ทั่วโลกราว 2.5 ล้านเครื่อง หลังจากวางจำหน่ายไปไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากมีผู้ใช้รายงานกรณีเครื่องระเบิดขณะชาร์จ คาดว่าการเรียกคืนครั้งนี้จะสร้างความเสียหายให้ซัมซุงราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
BTC | 3,031,000 | 3,031,000 | 6,062,000 | - | 15.16 |
BTC-W3 | 455,000 | - | 455,000 | 455,000 | 11.68 |

ปปง.ยึดทรัพย์เครือข่ายเสี่ยเปี๋ยง 7 พันลบ. คดีปลอมสัญญาขายข้าวแบบจีทูจี
เสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 08:57:03 น.
พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีโครงการทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)ว่า ปปง.มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มสยามอินดิก้า บริษัท สิราลัย
ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา และบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง เป็นเงินฝากในบัญชีธานาคาร 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินในกทม. ลำพูน ภูเก็ต พังงา อยุธยา อ่างทาง 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งหมด 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท
สำหรับการยึดทรัพย์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์กับพวกรวม 21 คน คดีขายข้าวจีทูจี ซึ่งทำผิดด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำงานโดยช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้บริษัทไม่ต้องแข่งขันราคากับผู้เสนอรายอื่น แล้วนำข้าวที่ซื้อได้ในราคาต่ำกว่าราคาขายในประเทศ หรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ หรือนำไปให้บริษัท สยามอินดิก้านำไปขายต่ออีกทอดทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 20,000 ล้านบาท
"จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบธุรกรรมการทางการเงินพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ทุจริต โดยปลอมสัญญาให้ดูเสมือนมีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจริง รวมถึงตรวจพบการได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ทำผิดกับการทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งกลุ่มบริษัทสยามอินดิก้า บริษัท สิราลัย และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายอภิชาติหรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) ของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน"พล.ต.อ.ชัยยะกล่าว
*****************************************************************************************************************************************