คิดเป็นเห็นก่อน - พิจารณา
ไตร่ตรองปัจจัยกระทบอย่าง
รู้แจ้งเห็นจริง...
อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก https://www.thunhoon.com/title-11/
พิจารณาไตร่ตรองปัจจัยกระทบอย่างรู้แจ้งเห็นจริง...
ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปสำหรับตลาดหุ้นไทยว่าจะเดินหน้าทำสถิติใหม่อีกเมื่อไหร่ หลัง Set Index เรื่องแกว่งตัวออกข้าง ด้วยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติมาหลายวัน เนื่องจากทิศทางค่าเงินดอลล่าร์กลับมาแข็งค่า และเรื่องผลการประชุม เฟด ในขณะนี้ว่าจะส่งสัญญาณเพิ่มความเข้มข้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ รวมถึงการแต่งตั้งประธาน เฟด คนใหม่แทนนางเจเน็ต เยลเลน ที่จะหมดวาระลงในเดือน กพ. 61 ซึ่งส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายของต่างชาติในเวลานี้
แต่ตลาดยังมีปัจจัยสนับสนุนทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ออกมาดี โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยในเดือนต.ค.60 ว่าขยายตัว 4.5-5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาวะการส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ส่งผลให้ธปท.เตรียมทบทวนประมาณการ GDP ทั้งปีเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/60 ที่ยังคงทยอยประกาศกันออกมา น่าจะยังส่งผลบวกกับตลาดหุ้นไทยได้ต่อครับ
TITLE พร็อพเพอร์ตี้ไม่มีความเสี่ยง พร้อมโตก้าวกระโดด บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เรียกได้ว่าเป็นบริษัทฯอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เพราะมีฐานลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ แถมแนวโน้มในอนาคตมีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด ซึ่งหลังจากได้เงินจากการระดมทุนจะเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและฐานะทางการเงิน เพราะสามารถซื้อที่ดินเพิ่มและผุดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องรอให้จบทีละโครงการจึงจะเริ่มโครงการใหม่ได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เตรียมต้อนรับหุ้นน้องใหม่ได้เลย 2 พ.ย.นี้ และคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ทิศทางการลงทุนสำหรับตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ยังคงต้องเฝ้าติดตาม คัดเลือกหุ้นลงทุนที่มีปัจจัยบวกเฉพาะกลุ่ม เฉพาะตัว ทั้งเรื่องผลการดำเนินที่กำลังจะประกาศที่คาดว่าจะออกมาดี แม้กระทั่งกลุ่มแบงก์ที่ประกาศงบฯ ไปแล้ว ตลาดมีการตอบรับไปแล้วก็ต้องมาพิจารณาว่าจะเติบโตไปตามเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวได้ด้วยหรือไม่ อีกทั้งราคาของหุ้นกลุ่มแบงก์ถือว่าลดลงมามากในช่วงที่ผ่านมา นับว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัวและเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อย่าง HMPRO หุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ออกมาดีกว่าที่คาด HMPRO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 1,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้กำไรงวด 9 เดือนของ HMPRO อยู่ที่ 3,360.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,805.27 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 555.16 ล้านบาท หรือ 19.79% ขณะที่ในงวด 9 เดือน รายได้รวมอยู่ที่ 47,201.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76% โดยเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการขาย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตจากยอดขายสาขาใหม่ ทั้งธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นจากการได้ผลประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น
เรื่องราวของปัจจัยกระทบต่างๆนั้น คือเรื่องราวข่าวสารที่เกิดขึ้นมาแล้ว หรือกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยที่เกิดขึ้นมีทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง หรือในระยะยาวก็ตาม ล้วนส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เราต้องพิจารณา ประเมินรู้ วิเคราะห์และสรุปให้ได้ว่าปัจจัยที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นนั้น เป็นปัจจัยเชิงบวก หรือเชิงลบ กระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ หรือต่อธุรกิจ ต่อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในแง่มุมไหนบ้าง และสรุปให้เห็นได้ว่าจะมีผลอย่างไรต่อไป หากเราสามารถเกาะติดปัจจัยและประเมินรู้ได้ว่าอะไรเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นและมีอิทธิพลต่อแนวโน้มทิศทางของตลาดโดยรวมอย่างไร เราก็สามารถตัดสินใจเพื่อการลงทุนที่ถูกต้องที่ดีได้ครับ