ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดโผอุตฯ รุ่ง-ร่วง ใต้วิกฤติไวรัสเขย่าโลก

โดย OttO
เผยแพร่ :
72 views

เปิดโผอุตฯ รุ่ง-ร่วง ใต้วิกฤติไวรัสเขย่าโลก

ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่มีจุดเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีนตั้งแต่ปลายปี 2562 และกำลังแพร่ระบาดไปในกว่า 100 ประเทศ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคส่วนต่างๆ ของทั่วโลกในเวลานี้ ในส่วนของผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย ณ เวลานี้เป็นอย่างไรบ้างนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ “นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์” โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงภาพรวมและแนวทางในการรับมือ

 

4 อุตฯรับผลกระทบ

นางสาวสุชาดา กล่าวว่า จากการประเมินผลกระทบทางด้านลบ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะเห็นผลกระทบชัดเจนในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากจีนเป็นห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ทั้งชิ้นส่วนและสินค้าสำเร็จรูปที่สำคัญของโลกในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยโรงงานในไทยเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต เช่น ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศบางราย เป็นต้น โดยในเดือนมกราคม 2563 สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์มีมูลค่าส่งออกไปจีน 1.14 หมื่นล้านบาท ลดลง 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์คาดการณ์ผลกระทบจากโควิด-19 จะทำให้มูลค่าการผลิตและส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ของไทยลดลง 8-10% หรือประมาณ 2 แสนล้านบาทในปีนี้ โดยที่กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะได้รับผลเชิงลบมากสุด ปัจจุบันเอสเอ็มอีในกลุ่มนี้มีมากกว่า 2 พันรายและมีแรงงานในธุรกิจกว่า 5.7 แสนคน”

 

นอกจากนี้ยังกระทบอุตสาหกรรมอาหารที่มีการส่งออกไปจีน โดยเฉพาะประเภทอาหารสด ทั้งปลาสด และกุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ที่ชะลอตัวลงตามสถานการณ์การระบาด จากเป็นสินค้าที่มีอายุในการเก็บรักษา และการส่งออกไปจีนยังมีปัญหาในเรื่องการขนส่งและกระจายสินค้า เดือนมกราคม ไทยมีการส่งออกปลาสด และกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งไปจีน 2.4 และ 6.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 41.46% และ 69.48% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีนักท่องเที่ยวจีนจากปกติจะเดินทางมาไทยประมาณ 11.3 ล้านคนต่อปี จะส่งผลให้รายได้จากการซื้ออาหารรวมถึงเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวในปีนี้ ลดลงประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยคำนวณจากนักท่องเที่ยว 1 คนมีค่าใช้จ่ายด้านอาหาร 2,532 บาทต่อวัน

ขณะที่อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางจะได้รับผลกระทบในกลุ่มยางแปรรูปขั้นปฐม (ยางแท่ง ยางแผ่น น้ำยางข้น ฯลฯ) เนื่องจาก 39% ของกลุ่มดังกล่าวเป็นการส่งออกไปจีน โดยข้อมูลจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้(ข้อมูล ณ วันที่ 23 ก.พ. 63) ไทยส่งออกยางพาราแปรรูปขั้นปฐมลดลง 2.85 หมื่นตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปิดท่าเรือกว่า 10 แห่งในจีน

“ในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โรงงานบางแห่งยังได้รับผลกระทบ จากโรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ในจีนหยุดการผลิตชั่วคราว ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ในไทยบางแห่งประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ เช่น ท่อไอเสีย อุปกรณ์ส่งกำลัง อุปกรณ์ระบบเบรก หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อเป้าการผลิตรถยนต์ 2 ล้านคันของไทยในปีนี้”

 

ผลดีอาหารพร้อมทาน-สิ่งทอ

อย่างไรก็ดีในวิกฤติก็ยังมีโอกาส โดยมีอุตสาหกรรมที่ได้รับผลเชิงบวกจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น อาหารสำเร็จรูป อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ข้าว, เครื่องดื่ม และอาหารกระป๋องต่างๆ เป็นต้น เพราะจากวิกฤติส่งผลทำให้ลูกค้าจากประเทศอื่นสนใจสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น โดยเดือนมกราคม การส่งออกอาหารพร้อมรับประทาน มีมูลค่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 30%

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเป็นอีกหนึ่งอุตสาห กรรมที่ได้โอกาส โดยเฉพาะการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ และผ้าผืน ทั้งชนิดผ้าทอและผ้าไม่ถักไม่ทอ (non woven) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งมีความต้องการในประเทศค่อนข้างสูง

 

เสนอลด

ค่าธรรมเนียมรายปี

นางสาวสุชาดา กล่าวอีกว่า ในส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ แนวทางการช่วยเหลือจากภาครัฐ จะเป็นการดำเนินการในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี เพื่อให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เช่น มาตรการพักชำระหนี้ การขยายเวลาชำระหนี้ และดอกเบี้ยถูก จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) อีกทั้งยังมีการลดขั้นตอน และอำนวยความสะดวกการนำเข้า-ส่งออกในด้านต่างๆ เช่น การนำเข้าวัตถุดิบ และการอำนวยความสะดวกในการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

“อาจจะมีการนำเสนอนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในเรื่องของการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี เพื่อให้โรงงานสามารถหล่อเลี้ยงตัวเองต่อไปได้ และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเครื่องจักรให้กับสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ”

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


OttO