สรุปข่าว เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2566

สรุปข่าว #เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2566

โดยมีหัวข้อข่าวที่น่าสนใจดังนี้

.

หุ้นท่องเที่ยวเหนื่อยการเมืองกดดัน

'กำไรบจ.' ไตรมาส 2/66 ทรุด โบรกชี้กลุ่ม 'พลังงาน-แบงก์' ผลงานไม่เด่น

ควัก 5 หมื่นล้านอุ้มราคาดีเซล

.

ติดตามอ่านรายละเอียดตามนี้ได้เลยครับ

.

ประเด็นเชิงบวก

.

มันนี่เอ็กซ์โปหาดใหญ่สะพัด 8 พันล้าน | ไทยรัฐ

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมงานมหกรรมการเงิน หาดใหญ่ ครั้งที่ 13 Money Expo 2023 Hatyai วันที่ 7-9 ก.ค.66 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า มีประชาชนนักธุรกิจในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง มาใช้บริการกับธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานคึกคัก ส่งผลให้มียอดธุรกรรมการเงินการลงทุนทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ รวมกว่า 8,000 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 14,500 ราย สูงกว่าปีที่แล้วที่มียอดธุรกรรม 7,000 ล้านบาท โดยยอดธุรกรรมที่สูงเป็นอันดับ 1 ได้แก่ สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน รวมวงเงินกู้กว่า 4,190 ล้านบาท จากโปรโมชันดอกเบี้ยพิเศษที่ธนาคารนำมาแข่งขันกันในงาน อันดับ 2 สินเชื่อเอสเอ็มอี มียอดเงินกู้วงเงินรวมกว่า 1,460 ล้านบาท โดยมีแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยื่นขอกู้ภายในงานมากมาย นอกจากนี้ ธนาคารต่างๆ ยังนำสินเชื่อสีเขียวมานำเสนอในงาน เช่น สินเชื่อธุรกิจเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการยื่นขอกู้สินเชื่อสีเขียว รวมวงเงินกว่า 560 ล้านบาท

.

ท่องเที่ยวคึกคักดันศก.ฟื้น | สยามรัฐ

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 40 ด. รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า จากผลของการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2566 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างมีนัยสำคัญ

.

ประเด็นเชิงลบ

.

หุ้นท่องเที่ยวเหนื่อยการเมืองกดดัน | มติชน

aot นำกลุ่มร่วงแรงสวนดัชนีหุ้นปิดบวก นักลงทุนขายทิ้งกังวลนทท.ต่างชาติไม่มา ผวาม็อบลงถนน หลัง'พิธา'ส่อวืด นายกฯคนที่ 30 กดดันหุ้นท่องเที่ยวร่วง aot นำกลุ่มร่วงแรง 2 บาท ครั้งแรกนับจาก มี.ค. นักลงทุนกังวลภาพท่องเที่ยวเหนื่อย นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาตามนัด

.

'กำไรบจ.' ไตรมาส 2/66 ทรุด โบรกชี้กลุ่ม 'พลังงาน-แบงก์' ผลงานไม่เด่น | กรุงเทพธุรกิจ

คาดทั้งปี 66 กำไรอยู่ที่ 1.12 ล้านล้าน ลุ้นครึ่งหลังเศรษฐกิจ-การลงทุนฟื้น โบรก มอง "กำไรบจ." ไตรมาส 2 ปี 66 หดตัวจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และช่วงเดียวกันปีก่อน "บล.เอเซีย พลัส" ชี้กำไรต่ำกว่า 2.67 แสนล้าน เหตุคาดผลงาน กลุ่มพลังงานไม่สวย หลังราคาน้ำมันร่วง "บล.กสิกรไทย" ประเมินกำไรบจ. ลดลง 5-10% รับแรงกดดันส่งออก ชะลอตัว "บล.ทิสโก้" คาดกลุ่ม "พลังงานแบงก์" ผลงานไม่สดใส

.

ประเด็นข่าวทั่วไป

.

ควัก 5 หมื่นล้านอุ้มราคาดีเซล | ไทยโพสต์

ผุดแผนหลังครม.ไม่ต่อภาษี คาดสรุปชัดเจนสัปดาห์หน้า กองทุนน้ำมันเร่งถกควักเงินกู้ 5.5 หมื่นล้านบาท พร้อมลดการเก็บเงินเข้ากองทุนตรึงดีเซลไม่เกิน 32 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป หลัง ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีดีเซล คาดมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า

.

ซีพีเอสคอฟฟี่ดัน 3 โมเดลใหม่รุกขยายลูกค้า | ไทยโพสต์

นายอภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ซีพีเอส แช็ปส์ และซีพีเอส คอฟฟี่ ยัสปาล กรุ๊ป บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดร้านซีพีเอส คอฟฟี่ หรือร้านจำหน่ายกาแฟใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ป๊อปอัปสโตร์ เปิดแห่งแรกที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่, คอฟฟี่ บาร์ เปิดในอาคารสำนักงาน และโครงการมิกซ์ยูส รวมทั้งการเปิดสาขาในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก และคอฟฟี่ ทรัค รถสัญจรในงานอีเวนต์ต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ต งานเทศกาล เป็นต้น

.

เมเจอร์ฯปักหมุดหลากทำเลทอง ทุ่ม1.2หมื่นล.ผุดบ้าน-คอนโดหรู | มติชน

นายสุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง 2566 โดยเฉพาะตลาดลักชัวรี่ยังมีดีมานด์ต่อเนื่องทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ เช่น จีน พม่า ยุโรป บริษัทจึงเปิดขายโครงการแนวราบ 3 ทำเล มูลค่ารวม 4,120 ล้านบาท ได้แก่ เมย์ฟิลด์ ปิ่นเกล้า เนื้อที่ 8 ไร่ 68 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่งถึง 4 ชั้น เริ่มต้น 14.5 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 500 ล้านบาท และไตรมาส 4 เปิดเมย์ฟิลด์รามอินทรา-คู้บอน เนื้อที่ 40 ไร่ บ้านเดี่ยว 167 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท เริ่มต้น 13.9 ล้านบาท และเมย์ฟิลด์ เลน รัชดา-ลาดพร้าว เนื้อที่ 2 ไร่ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 11 ยูนิต มูลค่า 520 ล้านบาท เริ่มต้น 39.9 ล้านบาท และเตรียมเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ที่พร้อมพงษ์เป็นแบรนด์ใหม่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ราคา 300,000 บาท/ตร.ม. และพญาไท แบรนด์มาร์ควิส มูลค่า 5,000 ล้านบาท ราคากว่า 200,000 บาท/ตร.ม.

.

อาวดี้รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | ไทยรัฐ

เปิดตัว Q8 e-tron กระหึ่ม! วิ่งได้ไกล 636 กม. นายอเล็กซานเดอร์ วอน วาลเด็นเบอร์ก เดรสเซล ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ กลุ่มประเทศอาเซียน ไต้หวัน อินเดีย และยุโรปตะวันออก บริษัท AUDI AG เปิดเผยว่า นับจากปี 2026 เป็นต้นไป อาวดี้จะก้าวเข้าสู่ยุคยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งโลกอนาคตเต็มขั้น ความมุ่งมั่นภายใต้กลยุทธ์ Vorsprung 2030 แผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาดโลกจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% เส้นทางสู่ e-mobility ของอาวดี้ถือเป็นการก้าวไปสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าครั้งสำคัญที่ทำให้เราได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารถรุ่นใหม่ใน Product portfolio การพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ รวมไปจนถึงแผนการดำเนินการ เพื่อเตรียมสายการผลิตทั่วโลกให้พร้อมรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% และการขยายตัวอย่างยั่งยืน

.

ผนึกกำลังปัดฝุ่นคอมพ์เก่า สร้าง 'ห้องเรียนดิจิทัล' ใหม่ | เดลินิวส์

นายไมค์ จิตติวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการ ตลาดด้านแบรนด์กูเกิล ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่ากูเกิลได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร หอการค้าอเมริกัน และภาคเอกชน รวบรวมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเก่าที่ได้รับการบริจาคเพื่อนำมาลงระบบปฏิบัติการโครมโอเอส เฟล็กซ์เพื่อให้คอมพิวเตอร์เก่าเหล่านั้น กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความรวดเร็วและปลอดภัยเพิ่มขึ้น แล้วนำไปบริจาคให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม. ให้กับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ใช้งานในการเรียน คาดภายใน 4 ปีข้างหน้าจะได้รับบริจาคคอมพิวเตอร์เก่า 130,000 เครื่องสามารถนำไปใช้งานได้ครอบคลุม 437 โรงเรียน

.

แนะป้องกัน 'แอปดูดเงิน' | เดลินิวส์

น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามหลังจากออกมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน พบว่าสถาบันการเงินทุกแห่งทำตามกรอบเวลาและมีความคืบหน้าไปตามแผน โดยกรณีถูกหลอกลวงผ่านแอปดูดเงินลดลงในช่วงไตรมาสแรก แต่เริ่มมากขึ้นในเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะมิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบหลอกลวงอยู่เรื่อยๆ เมื่อรวมการถูกหลอกลวงแอปดูดเงินตั้งแต่เดือน ธ.ค.65-มิ.ย.66 เกิดความเสียหายแล้ว 1,152 ล้านบาท

--