หุ้นรพ.พุ่งแรง โบรกเตือนราคาแพง-แนะเทรดดิ้ง

"หุ้นโรงพยาบาล" บวกสวนตลาดดิ่ง "บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี" ชี้ เป็นกลุ่มปลอดภัยสุดจากโควิด กำไรไตรมาส 2/64 แข็งแกร่ง พร้อมเตือนราคาหุ้นขึ้นแรงเกินพื้นฐาน "บล.เอเซีย พลัส" แนะนำซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว

ดัชนีหุ้นหมวดการแพทย์ ถือเป็นกลุ่มเดียวที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้วานนี้ (8 ก.ค.) สวนตลาดที่ปรับตัวลง โดยเพิ่มขึ้น 79.96 จุด หรือ 1.42% นำโดย บมจ.เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ (CMR) บวก 0.34 บาท หรือ 11.72%, บมจ.ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) 1.00 บาท หรือ 7.69% บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) 0.10 บาท หรือ 5.00% และ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นโรงพยาบาลปรับขึ้นสวนทางตลาด เพราะนักลงทุนมองเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความปลอดภัยที่สุดจาก ผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเกิดกระแสเข้าไปซื้อเก็งกำไร นอกจากนี้ กลุ่มโรงพยาบาลยังได้ปัจจัยบวกจากการได้สิทธินำเข้าและจัดจำหน่ายวัคซีนทางเลือกเพื่อป้องกันโควิด-19 อีกทั้งกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตดี

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มปรับขึ้นมามากแล้วประมาณ 30-40% นับตั้งแต่เกิดโควิด-19 ระลอก 3 ในเดือน เม.ย. โดยเฉพาะหุ้นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ที่ได้ประโยชน์จากการตรวจเชื้อโควิด-19 โดย บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ที่ราคาปรับขึ้นสูงถึง 67.35% สะท้อนว่าหุ้นโรงพยาบาลรับรู้ปัจจัยบวกไปมากพอสมควรแล้ว และโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับขึ้น(อัพไซด์)ต่อเนื่องในระยะถัดไป เริ่มจำกัด จึงแนะนำนักลงทุนซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น อีกทั้งคาดว่ากลุ่มโรงพยาบาลจะเผชิญแรงขายทำกำไรตามข่าว (Sell on Fact) ในวันประกาศล็อกดาวน์

ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ราคาหุ้นยังปรับขึ้นได้ช้ากว่าโรงพยาบาลขนาดเล็กเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกัน เช่น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) บวก 8.80% ส่วน บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ติดลบ 6.62% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการได้สิทธิกระจายวัคซีนทางเลือกในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 รายได้ประกันสังคมที่มีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของรายได้รวม และรายได้จากค่าตรวจโควิด-19 แม้ไม่สูงเท่าโรงพยาบาลเล็ก แต่ด้วยการมีรายได้ในอดีตที่พึ่งพิงผู้ป่วยต่างชาติค่อนข้างสูง จึงไม่แนะนำซื้อลงทุน เพราะคาดการณ์เป้าหมายเปิดประเทศของรัฐบาลที่เหลืออีก 90 วัน จะเป็นไปได้ยาก

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ราคาหุ้นโรงพยาบาลปรับขึ้นต่อเนื่องจาก ความคาดหวังประกาศงบไตรมาส 2 ปี 2564 แข็งแกร่ง แม้โควิด-19 จะกระทบกำไรกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพราะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติหายไปและผู้ป่วยชาวไทยชะลอการเข้าใช้บริการลง แต่มีรายได้ใหม่จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นร้อนแรงในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลประกันสังคมที่ได้ประโยชน์จากการตรวจเชื้อ จึงแนะนำเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาอ่อนตัวลงและเน้นเก็งกำไร

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก