ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดประเทศเข้าทาง CPALL เตรียมฟื้นตัวเด่น แถมหุ้นยัง Laggard

โดย sine2528
เผยแพร่ :
68 views

ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยยังอยู่บนความหวังจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะมีเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูง แต่การระบาดของ COVID-19 ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก หลายๆบริษัทก็ได้รับผลกระทบไปตามกัน แต่ล่าสุดแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เริ่มขึ้นแล้ว โดยรัฐบาลโปรยข่าวดีของธุรกิจท่องเที่ยว ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างประเด็นลดวันกักตัว และเปิดประเทศโดยนำร่องภูเก็ตนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ


ทั้งนี้ ประเด็นลดวันกักตัวนั้น ศบค.ได้มีมติลดวันกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูงมาก ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน และผู้ที่ได้ฉีดวัคซีน COVID-19 ครบทั้ง 2 เข็ม จะลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้ว จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป


อย่างไรก็ตามนอกเหนือหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลบวกโดยตรงแล้ว ก็ยังมีหุ้นค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศที่จะได้รับอานิสงส์เช่นกันอย่าง CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร"


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 ที่ผ่านทาง CPALL กำไรสุทธิ 16,102.41 ล้านบาท ลดลง 28% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22,343.08 ล้านบาท และมีรายได้รวม 546,590 ล้านบาท ลดลง 4.3% โดยรายได้จากการขายสินค้าและบริการ มีจำนวน 525,884 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ จากเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง รวมถึงผลกระทบจากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้าร้านลดลง


ทั้งนี้ในปี 63 ธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ มีการขยายสาขา 7-Eleven รวมทั้งสิ้น 720 สาขา ตามเป้าหมาย ส่งผลให้สิ้นปี บริษัทมีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 12,432 สาขา โดยสำหรับปี 64 บริษัทวางแผนลงทุนขยายเครือข่ายร้านสะดวกซื้อต่อเนื่องตามการขยายตัวของชุมชน โดยมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา


“ราคาหุ้น CPALL ทำ New high ในปีนี้ แต่ยัง Laggard เกือบที่สุดในกลุ่มค้าปลีกเทียบตั้งแต่ reopen ปีก่อน ขณะที่โมเมนตัมเป็นบวกจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย CPALL มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7-8%”นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าว


พร้อมยังบอกอีกว่า ขณะนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 86 บาท โดยประเมินว่ายอดขายสาขาเดิมในช่วงไตรมาส 2/2564  จะพลิกเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส จากฐานต่ำปีก่อนและหมดมาตรการคนละครึ่ง โดยประเมินกำไรปี 2564-66 เติบโต 10-25% จากต้นทุนการกู้ซื้อ Tesco ลดลงและรวมกำไรของ Tesco เต็มปี


ส่วนบริษัท หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 73 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 1/64 ลดลง 20%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานที่ทำไว้สูงในช่วงก่อน COVID-19 อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจหลักจะกลับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป ยิ่งไปกว่านั้นเรามีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจ O2O ของบริษัท


ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เราประเมินผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวจาก 1.ตามภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐฯ (บวกทางอ้อมต่อ CPALL*) 2. การเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวในครึ่งหลังปี 64 และ3.คาด Same store sales growth ฟื้นตัวทั้งจากปริมาณขาย และราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (ผลจากเงินเฟ้อ)


ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บอกว่า ปี 2564 คาดว่ากําไรจะฟื้นตัวกลับมาเตบโต 11% มาอยู่ที่ 18,036 ล้านบาท โดยเกิดจากยอดขายสาขาเดิมที่ค่อยๆ ฟื้นตัวจากฐานตํ่าของปีก่อนและอัตรากําไรขันต้นที่สูงขึ้นที่ธุรกิจ CVS และส่วนแบ่งกําไรที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากธุรกิจ cash & carry ซึ่งจะมากเกินพอชดเชยผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 6% ต่อกําไรหลังจากซื้อเทสโก้เอเชียเสร็จ (ใชสมมติฐานต้นทุนทางการเงิน 4.7% ต่อปีสูงกว่ากำไรทจะได้รับจาก เทสโกเอเชียแต่ยังไม่ได้รวมเอา synergy จากดีลนี้เข้ามา)


“เราคาดว่ากําไรของ CPALL จะฟื้นตัวในปี 2564 (โดยเฉพาะในไตรมาส 2/64) เพราะการฟื้นตัวของ SSS growth จากฐานตํ่าที่มีสาเหตุมาจากมาตรการภาครัฐในการควบคุมการระบาดของ COVID-19 จะมากเกินพอชดเชยผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อกําไรหลังจากซอกิจการเทสโก้เอเชียเสร็จ โดยคงแนะนำ OUTPERFORM ราคาเป้าหมาย 80 บาท ”นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าว


ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPALL และ CENTEL เป็นหุ้นได้ประโยชน์จากการกระจายวัคซีนปลายปี 2564 และราคายัง Laggard โดย  CPALL ให้เน้นลงทุนระยะยาวเป็นหลัก เพราะช่วงสั้นอาจมี overhang จากการที่ยังอยู่ในช่วง Transition ระหว่างการ refinance เงินกู้ดีลการซื้อกิจการโลตัส (8 หมื่นล้านบาท หรือราว 2.6 พันล้านเหรียญ) ล่าสุด ออกหุ้นกู้ 2.2 หมื่นล้านบาท อาจทำให้ยังไม่เห็น synergy จากการรวมกิจการเท่าที่ควร




sine2528