ห้องเม่าปีกเหล็ก

คัดมาให้แล้ว! หุ้นที่รับประโยชน์ !! หลังจีนผ่อนคลายนโยบาย Zero Covid

โดย Durant
เผยแพร่ :
184 views

คัดมาให้แล้ว! หุ้นที่รับประโยชน์ !!

หลังจีนผ่อนคลายนโยบาย Zero Covid

.

การดำเนินนโยบาย Covid-19 เป็นศูนย์ของจีน ที่ต่อเนื่องและกินเวลายาวนานหลายเดือน ประชาชนบางพื้นที่ถูกตัดขาดและต้องอยู่ในอาคาร กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนต้องหยุดชะงัก ทำให้เกิดความไม่พอใจและมีประชาชนออกมาประท้วงมากขึ้น ทั้งในกรุงปักกิ่ง เมืองซีอาน นานกิง อู่ฮั่น เฉิงตู และนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งการประท้วงครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างน้อยก็ในช่วง 10 ปีที่ ผ่านมา โดยผู้ประท้วงจะมีการชูกะดาษขาวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมตะโกน เรียกร้องให้ยกเลิกการล็อกดาวน์ทั้งในอุรุมชี ซินเจียง และทั้งประเทศจีน รวมถึงเรียกร้องให้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออก

.

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัฐบาลจีนเริ่มเตรียมผ่อนคลายมาตรการ Covid-19 มากขึ้น ด้วยแผนการเร่งฉีดวัคซีน Covid-19 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และยกเลิกการกักบริเวณผู้ติดเชื้อภายในอาคารบางพื้นที่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน

.

โดยบล.ดา โอ (ประเทศไทย) ระบุว่า มองเป็นผลบวกต่อสถานการณ์ในจีนที่เริ่มเร่งฉีดวัคซีนมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายที่จะรับมือกับ Covid-19 ได้ดีมากขึ้นในอนาคต ส่วนการประท้วงถือว่าเป็นการกดดันให้รัฐบาลจีนผ่อนคลายความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อการท่องเที่ยวและกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับจีน เพราะจะทำให้คนจีนเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศได้

.

แต่อย่างไรก็ดี จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกซักพักจนกว่าจะมีการเปิดประเทศ โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยนักท่องเที่ยวจีนเป็นประเทศที่มีสัดส่วน รายได้เข้าไทยสูงที่สุด ซึ่งปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากสุดราว 11 ล้านคน คิดเป็น 25% ของนักท่องเที่ยวโดยรวม

.

สำหรับหุ้นกลุ่มหลักที่จะได้ประโยชน์หากจีนมีการผ่อนคลายการเปิดประเทศมากขึ้น ได้แก่ กลุ่ม Aviation ซึ่งหุ้นที่จะได้ประโยชน์มากสุด ได้แก่ AAV แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท, AOT แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 82 บาท และ BA โดยสถานการณ์ปกติสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวอยู่ที่ AAV 25%, AOT 15% และ BA 5%

.

กลุ่ม Tourism หุ้นที่จะได้ประโยชน์มากสุดได้แก่ ERW แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท เพราะมีสัดส่วนรายได้ จากนักท่องเที่ยวจีนสูงสุดในกลุ่มที่ 12%, CENTEL แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 55 บาท และ SPA ราคาเป้าหมาย consensus 11.53 บาท

.

กลุ่ม ICT distributor จะได้รับผลประโยชน์จากโอกาสที่จีนจะลดการล็อกดาวน์ ทำให้โรงงานกลับมาผลิตได้สู่ระดับปกติ และหนุนให้สินค้า IT กลับมาสู่ระดับปกติเร็วขึ้น บวกต่อหุ้นกลุ่ม IT seller อย่างไรก็ตามในระยะสั้นฝ่ายวิจัยคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม “ต่ำกว่าตลาด” และไม่มี Top-pick จากสถานการณ์สินค้าที่จะยังขาดตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟนในไตรมาส 4/65 จากการล็อกดาวน์ในจีน

.

กลุ่ม shipping & logistics จะได้ประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมา ทำให้การขนส่งสินค้าปรับตัวดีขึ้น สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์ คือ WICE แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 12 บาท มีสัดส่วนรายได้ในจีนราว 20%

.

กลุ่ม Energy จะได้ประโยชน์จากอุปสงค์น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ดีขึ้น ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) สูงขึ้น โดยฝ่ายวิจัยมองหุ้นได้ประโยชน์ คือ TOP แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 64 บาท, SPRC แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 13.30 บาท, และ PTTEP แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 190 บาท

.

กลุ่ม Petrochemical ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว ช่วยหนุนราคาและส่วนต่างราคาให้ดีขึ้น โดยมองหุ้นได้ประโยชน์ คือ IVL แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 56 บาท และ PTTGC แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 44 บาท

.

กลุ่ม Ground Transport ได้แก่ BEM แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท และ BTS แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนราว 1-3%

.

และกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ BAFS แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 35 บาท มีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินจีนราว 10%, EKH แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10 บาท จากการเข้ารับศูนย์บริการ IVF โดยเดิมมีสัดส่วนรายได้ของจีนราว 10%, SPA มีสัดส่วนรายได้จากจีน 50-55% และ TKN มีสัดส่วนรายได้จากจีน 21% (รวมส่งออกไปจีน)

 

 


Durant