ข่าวดีหุ้น 2 เด้ง / สุนันท์ ศรีจันทรา
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด โบรกเกอร์เบอร์ 8 เพิ่งปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ โดยประเมินว่า ปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,695 จุด แต่ปรากฏว่า ดัชนีฯ หุ้นตีฝ่าระดับ 1,700 จุด ไปเรียบร้อยแล้วอย่างพลิกความคาดหมาย
เพียงช่วง 2 วันทำการ คือ วันที่ 18 และ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นรวมแล้วเกือบ 40 จุด ขยับมาปิดที่ 1,705.98 จุด สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี หลังจากย่ำอยู่ระดับ 1,670 จุดมาพักใหญ่
ข่าวดีที่นักลงทุนรอคอยมานาน โหมเข้ามาติดๆ โดยวันอังคารที่ 18 มิถุนายน " ข่าวโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เริ่มลงตัว ทำให้นักลงทุนต่างชาติโหมซื้อหุ้นอย่างหนัก และมียอดซื้อสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท "
วันรุ่งขึ้น " มีข่าวการเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับผู้นำจีน เกี่ยวกับการคลี่คลายสงครามการค้า และผลเจรจาออกมาในแนวทางที่ดี ทำให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วิ่งขึ้นกว่า 300 จุด ตลาดหุ้นทั่วโลกขานรับ "
ปัจจัยภายนอกที่สดใส สร้างแรงกระตุ้นด้านจิตวิทยาการลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์แห่เข้ามาไล่ซื้อหุ้นฝุ่นตลบ
มูลค่าการซื้อขายหุ้นทะลุ 1 แสนล้านบาท ส่วน นักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนทั่วไป เป็นกลุ่มเดียวที่ขายหุ้นออก
ตลาดหุ้นที่ปรับทิศทางสู่ช่วงขาขึ้น และขึ้นมาตั้งแต่ดัชนีหุ้นแถว 1,620 จุดนั้น นักลงทุนรายย่อยเป็นกลุ่มที่ขายหุ้นทำกำไรมาตลอด ซึ่งกลายเป็นคำถามว่า รายย่อย "ขายหมู" หรือไม่ เพราะขายแล้วหุ้นยังขึ้นต่อ
ความร้อนแรงของตลาดหุ้นรอบนี้เกิดขึ้นอย่างมีปี่ไม่มีขลุย ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้า และดัชนีฯ ก็ย่ำอยู่แถว 1,670 จุด เป็นแรมสัปดาห์ เพราะถูกแรงกดดันจากความหวั่นไหวในผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน และความวุ่นวายในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภาคใหม่
นักลงทุนแต่ละกลุ่มอยู่ในสภาพคุมเชิง ไม่ซื้อไม่ขายมากนัก เพื่อรอดูความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล และการเจรจาปัญหาสงครามการค้า ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับจีน ที่จะพบกันในสัปดาห์หน้า
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เฝ้าดูแนวต้านดัชนีฯ หุ้นที่ระดับ 1,680 จุด ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีไม่เคยทะลุขึ้นไปได้ และไม่มั่นว่า ในระยะสั้นจะฝ่าได้หรือไม่
แต่ข่าวดีชิ้นใหญ่ทั้งจากภายในและภายนอกก็ทะลักเข้ามา พลิกบรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่กำลังซึมๆ สู่การซื้อขายที่คึกคักสุดขีด
รายย่อยขายหมูหรือไม่ ยังสรุปไม่ได้ เพราะต้องดูทิศทางตลาดหุ้นว่าจะเป็นอย่างไร โดยหากยังพุ่งทะยานต่อไป รายย่อยเป็นกลุ่มที่ขายหมู ขายของดีราคาถูกทิ้งแน่
แต่ถ้าตลาดหุ้นไปต่อไม่ไหว ปรับฐานลงมา รายย่อยจะเป็นกลุ่มที่กำหนดกลยุทธ์ได้ถูกต้อง ถือโอกาสขายทำกำไรในจังหวะหุ้นขึ้น และรอช้อนซื้อหุ้นคืนในราคาต่ำ
หุ้นขึ้นรอบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน แต่ขึ้นจากผลพวงทางด้านจิตวิทยามากกว่า โดยการจัดตั้งรัฐบาลลงตัว ความกังวลในผลกระทบสงครามการค้าคลี่คลาย ทำให้นักลงทุนสถาบันแห่กลับเข้าตลาดหุ้นอย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นยังไม่เปลี่ยนไป ไม่มีการปรับเพิ่มประมาณการผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ยังไม่มีค่ายไหนขยับเป้าหมายประมาณการดัชนีฯ หุ้นปลายปี
ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็ไม่มีใครยืนยันว่า จะขนเงินกลับมาลุยตลาดหุ้นไทยจริง
ตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวดีมาเต็มอิ่มแล้ว ถ้าไม่มีข่าวดีกระตุ้นต่อ ถ้าต่างชาติชะลอการซื้อขาย ดัชนีหุ้นมีโอกาสพักเหนื่อยเหมือนกัน
แต่ถ้าพุ่งทะยานต่อ คงสายเกินไปที่รายย่อยจะตามไล่ซื้อ และราคาระดับนี้เสี่ยงเจ็บเนื้อเจ็บตัวมากกว่า
หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/