ห้องเม่าปีกเหล็ก

ความตึงเครียดไทย-กัมพูชา เสี่ยงกระทบหุ้นกลุ่มไหนบ้าง?

โดย ROSElove
เผยแพร่ :
45 views

จับตาความตึงเครียดไทย-กัมพูชา

เสี่ยงกระทบหุ้นกลุ่มไหนบ้าง?

.

สถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชายังมีความตึงเครียดต่อเนื่อง และกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลกระทบไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมและบริษัทจดทะเบียนบางแห่งที่มีความเชื่อมโยงหรือมีการดำเนินธุรกิจอยู่ในกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในด้านยอดขาย การลงทุน และการจ้างแรงงาน

.

โดย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แบ่งกลุ่มอุตสาหกรรมบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ดังนี้

 

 

.

กลุ่ม Food & Beverage

CBG มีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาประมาณ 13% ของรายได้รวม โดยส่งออกผ่านด่านอรัญประเทศและสระแก้ว ปัจจุบันยังส่งออกได้ปกติ ทั้งนี้ หากกัมพูชายกเลิกการบริโภคสินค้า CBG ทุกๆ 1 เดือน ฝ่ายวิเคราะห์คาดกระทบกำไรปี 2568 ที่ 1.7%

.

นอกจากนี้ยังมองว่าจะได้รับผลกระทบจากแรงงานกัมพูชาในไทยที่เป็นหนึ่งในลูกค้าสำคัญที่บริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง อย่างไรก็ตาม ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท

.

SNNP มีรายได้จากกัมพูชาที่ 4% ของรายได้รวมและมีโรงงานอยู่ที่กัมพูชา 1 โรง หากมีการปิดด่านทุกด่าน ทุกๆ 1 เดือน ฝ่ายวิเคราะห์คาดกระทบกำไรปี 2568 ที่ 0.3% อย่างไรก็ตาม ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท

.

OSP สัดส่วนรายได้จากกัมพูชาประมาณ 1% ของรายได้รวม ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าผลกระทบน้อย โดยมองว่าจะได้รับผลกระทบจากแรงงาน กัมพูชาในไทยที่เป็นหนึ่งในลูกค้าสำคัญที่บริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท

.

กลุ่ม Commerce

GLOBAL มี 2 สาขาในพนมเปญและพระตะบอง (ถือหุ้นในสัดส่วน 55%) โดยคิดสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาน้อยกว่า 2% ของรายได้รวม

.

CPAXT มี 3 สาขาในพนมเปญและเสียมเรียบ สัดส่วนรายได้จากกัมพูชาน้อยกว่า 1% ของรายได้รวม

.

CPALL มีสาขาของ 7-eleven รวมจำนวนสาขา 112 สาขา ในกัมพูชา คิดเป็นสัดส่วนรายได้น้อยกว่า 1% กลุ่ม

.

กลุ่ม Contractor (Overweight)

เนื่องจากแรงงานกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของแรงงานต่างด้าวทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากคิดเป็นสัดส่วนต่อแรงงานทั้งหมดอยู่ประมาณเพียง 5%

.

กลุ่ม Media

ONEE และ BEC (NR) ขายลิขสิทธิ์ละคร, ภาพยนตร์ และรายการไทยให้กัมพูชา โดย ONEE มีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชา 1% ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากระทบจำกัด ให้คำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 2.00 บาท

.

กลุ่มอื่นๆ

OR ประมาณ 4% ของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ทั้งหมดมาจากกัมพูชา ขณะที่ ปริมาณขายน้ำมันคิดเป็นราว 28-30% ของปริมาณขายน้ำมันต่างประเทศทั้งหมดในไตรมาส 1/68 ให้คำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท

.

SAV ทำธุรกิจวิทยุการบินที่กัมพูชา ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินสัดส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา มีสัดส่วนรายได้และกำไรราว 5% อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็น schedule flight ซึ่งยังคงมีเที่ยวบินปกติ ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท

 

 

ที่มา..  Wealthy Thai


ROSElove