พวก “ มีอนาคต “ ซึ่งเป็นนิ๊กเนมของวอแรนต์ของ ITD คือ “ ITD-W1 “ และ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกคือ ITD, CK, STEC และ UNIQ ก็มีอนาคตต่อไป รวมเป็นทั้งหมด 5 ตัว ส่วนสาเหตุของการ " มีอนาคต " เพราะ :
1) เป็นหุ้นที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายการขายของต่างชาติ เพราะ เป็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก และ ที่สำคัญที่สุดหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเพิ่งทำจุดต่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ถึง 4 ปีครึ่งในช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 ที่ผ่านมานี้เอง
2) เหตุผลระยะสั้น : รัฐบาลน่าจะเร่งประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเรียกคะแนนนิยมกับประชาชนชาวไทย ตลอดจนรัฐบาลและประชาชนชาวต่างชาติ และ ในส่วนของ " ITD-W1 " นั้น เพราะเป็น Warrant และ เป็นเพราะ อาจจะมีความก้าวหน้าของโครงการทวาย และ โครงการโปแตส จ.อุดรฯ ที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยบวกเสริมพิเศษมากกว่าการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ของ ITD
3) เหตุผลระยะยาว : รัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 น่าจะดําเนินนโยบายโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทอย่างต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 เพราะ เป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย และ เมื่อถึงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 แล้ว ขาขึ้นรอบใหญ่ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างก็น่าจะสิ้นสุดลง เพราะ 80% ของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท น่าจะมีการประมูลและรู้ผลแล้ว
ส่วนการปรับตัวขึ้นของพวก“มีอนาคต “ จนถึงจุดปิดเมื่อวานนี้ วันที่ 15 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 เป็นดังนี้คือ:
1) ITD-W1 ปิดที่ 0.17 บาท ( จากจุดตํ่าสุดที่ 0.07 บาท เมื่อ วันที่ 10 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.17 / 0.07 = +2.43 เท่า
2) ITD ปิดที่ 3.28 บาท ( จากจุดตํ่าสุดที่ 2.96 บาท เมื่อ วันที่ 4 เมษายน ปี พ.ศ 2561 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 3.28 - 2.96 ) / 2.96 x 100 = +10.81%
3) CK ปิดที่ 26.75 บาท ( จากจุดตํ่าสุดที่ 23.30 บาท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ปี พ.ศ 2561 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 26.75 - 23.30 ) / 23.30 x 100 = +14.81%
4) STEC ปิดที่ 22.40 บาท ( จากจุดตํ่าสุดที่ 17.10 บาท เมื่อวันที่ 30 เมษายน ปี พ.ศ 2561 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 22.40 - 17.10 ) / 17.10 x 100 = +30.99%
5) UNIQ ปิดที่ 14.20 บาท ( จากจุดตํ่าสุดที่ 12.50 บาท เมื่อ วันที่ 10 เมษายน ปี พ.ศ 2561 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 14.20 - 12.50 ) / 12.50 x 100 = +13.28%
6) CONS ปิดที่ 102.47 จุด ( จากจุดตํ่าสุดที่ 92.32 จุด เมื่อวันที่ 27 เมษายนปี พ.ศ 2561) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 102.47 - 92.32 ) / 92.32 x 100 = +10.99%
7) SET INDEX ปิดที่ 1,704 จุด ( จากจุดที่ผู้โพสต์คาดว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของสภาวะตลาดกระทิงที่ 1,561จุด เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ 2560 ) หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,704 - 1,561 ) / 1,561 x 100 = +9.16%
หมายเหตุ: 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com ) และ ( www.set.or.th )
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com
3) ผู้โพสต์ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ผู้โพสต์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะชักชวน ชี้นํา หรือ ชี้เป้าให้ท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน หรือ เข้ามา View มาลงทุนหรือไม่ลงทุนตามแนวทางที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอไป และ จะนําเสนอต่อไปในอนาคต และ จะไม่รับประกันผลตอบแทน ตลอดจนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่มีการนําข้อมูล หรือ ความเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์ไปใช้แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้โพสต์หวังแต่เพียงว่าข้อมูล และ ความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวข้างต้นของผู้โพสต์ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู และ เข้ามา View บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเข้าลงทุน หรือ ไม่ลงทุน