ฟองสบู่หุ้นคุณภาพสูง

เวลาเราเริ่มต้นที่จะเริ่ม ลงทุน โดยเฉพาะใน หุ้น
เรามักจะคิดว่า "หุ้นที่เราจะซื้อต้องเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีคุณภาพ และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ"... ตามตำรา
แต่เอาเข้าจริง ด้วยความผันผวนของตลาด การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ข่าวสารเศรษฐกิจรอบโลก
ทำให้นักลงทุนคิดว่า การถือหุ้นยาวอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดี...
และที่สำคัญ การถือหุ้นพื้นฐานดีไม่ได้หมายความว่าตัวผู้ลงทุนเองจะได้รับผลตอบแทนที่ดีตามไปด้วย
.
ครั้งหนึ่งตลาดหุ้นวอลสตรีทเคยเกิด "ฟองสบู่" หุ้นพื้นฐานดีในช่วงปี 1970 เราเรียกวิกฤติครั้งนี้ว่า วิกฤติหุ้นนิฟตี้-ฟิฟตี้ (Nifty Fifty)
หุ้นนิฟตี้-ฟิฟตี้ คือ กลุ่มหุ้น 50 ตัวขนาดใหญ่ พื้นฐานดี เป็นหุ้นบลูชิพ และได้รับการยอมรับจากนักลงทุนพร้อมใจกันว่าเป็นหุ้นที่ต้องซื้อและถือไปตลอดชีวิต ตัวอย่างเช่น หุ้น Coca-Cola, Walt Disney, McDonald’s, PepsiCo, Xerox
.
ราคาหุ้นกลุ่มนิฟตี้-ฟิฟตี้ สร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงาม...
ประกอบการอุตสาหกรรมกองทุนรวมเริ่มเฟื่องฟูอีกครั้ง
โดยกองทุนรวมแรกของโลก คือ กองทุน MFS Massachusetts Investors Trust ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 ถือเป็นก้าวแรกของการเป็น Mutual Fund และอุตสาหกรรมกองทุนรวมก็มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์อเมริกาเริ่มมีการเข้ามาควบคุมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล
ทำให้ผู้จัดการกองทุนต้องมีกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการลงทุน เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยอยู่เสมอ
และสิ่งที่จะขายได้ คือ หุ้นกลุ่มนิฟตี้-ฟิฟตี้ ที่ราคาหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพราะหุ้นกลุ่มนี้ซื้อได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเป็นหุ้นพื้นฐานดี
และยิ่งราคาหุ้นแกว่งตัวเป็นขาขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนที่ไม่ได้มีความรู้ทางการลงทุนมากนักอยากจะหวังผลตอบแทนจากการซื้อและถือไว้เฉยๆ บ้าง

อ่านต่อ :  https://bit.ly/3SPCBjb