ห้องเม่าปีกเหล็ก

สุดยอดดีลอสังหา สะเทือนรัชดา!

โดย INVESTING
เผยแพร่ :
32 views

สุดยอดดีลอสังหา สะเทือนรัชดา!

AWC เครือเจ้าสัวเจริญ ปิดดีล 8,704 ล้านบาท

ยึดโรงแรม Le Concorde + ตึกออฟฟิศใจกลางรัชดา

กลายเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญในเกมอสังหาฯระดับชาติ

มูลค่าซื้อหุ้นสุทธิ ~ 4,415 ลบ.

งบลงทุนปรับปรุง ~ 4,289 ลบ. (รวม VAT)

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ดีลนี้ไม่ใช่แค่ซื้อโรงแรม…

แต่คือ “การเปลี่ยนโฉมย่านรัชดา” ไปอีกระดับ

 

 

AWC เข้าซื้อทั้ง โรงแรม Swissôtel Bangkok Ratchada และ ตึก Le Concorde Office Tower รวมพื้นที่เกือบ 50,000 ตร.ม. แล้วเตรียมรีโนเวตใหม่ทั้งหมดให้กลายเป็นโครงการหรูภายใต้ชื่อ Jubilee Prestige Tower

โดยจะรีแบรนด์โรงแรมเป็น JW Marriott Bangkok Ratchadapisek

จากโรงแรมกลางเมืองธรรมดา → สู่แบรนด์ระดับโลก

จากราคา ADR เฉลี่ย 2,500 บาท → เป้าหมายใหม่ 7,500 บาท/คืน

กำไรที่เคยนิ่ง → เตรียมพุ่งทะยานในอีก 3 ปีข้างหน้า

 

ดีลนี้คุ้มหรือไม่? วิเคราะห์แบบนักลงทุนอสังหา

1. ประเมินราคาที่ดิน ณ ทำเลรัชดา MRT ห้วยขวาง

ปัจจุบันราคาที่ดินติด MRT ห้วยขวาง (หัวมุมรัชดา–ประชาราษฎร์)

อยู่ที่ประมาณ 1.5–2 ล้านบาท/ตารางวา

ที่ดินของ Le Concorde มีขนาดประมาณ 8 ไร่ = 3,200 ตร.วา

คิดมูลค่าที่ดินเพียงอย่างเดียว =

3,200 × 1.8 ล้านบาท = ~5,760 ล้านบาท

แค่ที่ดินเปล่า ราคาประเมินก็ “สูงกว่าราคาที่ AWC ซื้อทั้งโครงการแล้ว”

2. มูลค่าทรัพย์สินเดิม: โรงแรม + สำนักงาน

อาคารโรงแรม 400+ ห้อง (ประมาณ 30,000 ตร.ม.)

อาคารสำนักงาน Le Concorde Tower ~45,000 ตร.ม.

ค่าใช้จ่ายก่อสร้างใหม่ (อิงปี 2025):

โรงแรมระดับ 4–5 ดาว = 80,000–120,000 บาท/ตร.ม.

สำนักงานเกรด A = 60,000–90,000 บาท/ตร.ม.

 

แค่ค่าก่อสร้างใหม่ (ไม่รวมที่ดิน):

โรงแรม: 30,000 × 100,000 = 3,000 ล้านบาท

ออฟฟิศ: 45,000 × 70,000 = 3,150 ล้านบาท

รวมมูลค่าปลูกใหม่ = ประมาณ 6,000 ล้านบาท

 

เมื่อรวมกับราคาที่ดิน → มูลค่าทดแทนทั้งแปลงเกิน 11,000 ล้านบาท

แต่ AWC จ่ายจริงแค่ ~4,415 ล้านบาท (ยังไม่รวมงบรีโนเวต)

เรียกได้ว่า “ซื้อของคุณภาพ ในราคามือสอง”

 

นี่คือการลงทุนที่ได้ทั้ง:

Capital Gain (จากต้นทุนต่ำกว่าราคาทดแทน)

Cashflow (ทรัพย์สินมีรายได้ทันที)

Brand Premium (อัพค่าโรงแรมด้วยแบรนด์ JW Marriott)

AWC ไม่ได้แค่ซื้อทรัพย์ แต่มองไกลถึงการ “เปลี่ยนย่านธรรมดา ให้กลายเป็นแลนด์มาร์ก”

ซึ่งนี่คือแนวคิดแบบเจ้าสัวตัวจริง ที่มองอสังหาไม่ใช่แค่สินทรัพย์

แต่มองเป็น “โอกาสเปลี่ยนอนาคตเมือง”

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก..  KIM Property Live


INVESTING