ห้องเม่าปีกเหล็ก

เอกชนคึกคักขายหุ้นกู้ 5 แสนล้าน ซีอีโอ บจ.รอสัญญาณลงทุนรับเศรษฐกิจโตดีครึ่งปีหลัง

โดย knowledge_trader
เผยแพร่ :
85 views

 

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

9 เดือน หุ้นกู้โตแรงมูลค่ารวม 5.2 แสนล้าน "ค้าปลีก-แบงก์-ไฟแนนซ์-อสังหาฯ-พลังงาน" ออกหุ้นกู้มากสุด ตลท.เปิดผลสำรวจซีอีโอมองครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยดีขึ้นบจ.เดินหน้าแผนลงทุนในประเทศ หนุนผลประกอบการโตเพิ่ม ฟาก กนง.ปรับเพิ่มเป้าจีดีพีโต 3.2% จากเดิม 3.1%

นางสาวอริยา ติรณะประกิจผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนในช่วงประมาณ 9 เดือนที่ผ่านมา (4 ม.ค.-14 ก.ย. 59) ยังคงคึกคักต่อเนื่อง โดยมีการออกตราสารหนี้ระยะยาว (หุ้นกู้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี) จำนวน 122 บริษัท มูลค่ารวมกว่า 517,099 ล้านบาทซึ่งเติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 105 บริษัท มูลค่ารวม 387,593 ล้านบาท ซึ่งการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การระดมเงินเพื่อใช้ขยายธุรกิจ การซื้อกิจการ (M&A) และการชำระคืนหนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ค้าปลีก ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ อสังหาฯ และพลังงาน

 

"ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ น่าจะมีผู้ออกหุ้นกู้คึกคักต่อเนื่อง เพราะยังมีบริษัทที่ต้องออกหุ้นกู้ชุดใหม่ชดเชยหุ้นกู้ที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) ซึ่งมีมูลค่ากว่า 126,000 ล้านบาทและปีนี้อาจมีหุ้นกู้เกินเป้าหมายที่คาดไว้ที่ระดับ 6 แสนล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์" นางสาวอริยากล่าว

แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (ซีอีโอเซอร์เวย์) จำนวน 146 บริษัท หรือคิดเป็น 47% ของมาร์เก็ตแคปทั้งตลาด พบว่าส่วนใหญ่มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยช่วง 6 เดือนหลังของปี 2559 และคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตดีขึ้น จากความคาดหวังการกระตุ้นการเบิกจ่ายเงินของภาครัฐและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่บางส่วนเชื่อว่าผลจากการเมืองที่อยู่ในภาวะที่ดี จะช่วยผลักดันภาวะเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ซีอีโอส่วนใหญ่ยังมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมโดยเน้นการลงทุนในประเทศ

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ผู้บริหารให้น้ำหนักมากที่สุดคือ1.ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย 2.เป็นห่วงว่ากำลังซื้อจะเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว

ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับจีดีพีปีนี้จาก 3.1% เป็น 3.2% เพราะมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เศรษฐกิจอยู่ในทิศทางฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศอยู่บ้างใน 2 เรื่องที่กังวล คือ 1. ความต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน เพราะการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนไตรมาส 2 มาจากปัจจัยชั่วคราว 2.ปริมาณสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ของสถาบันการเงินมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยมี NPL เพิ่มขึ้นในสินเชื่อกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งกลุ่มพาณิชยการในต่างจังหวัดซึ่ง ธปท.กำลังจับตาดู ส่วนความเสี่ยงต่างประเทศต้องติดตามผลหลัง Brexit (อังกฤษออกจากอียู) และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก


knowledge_trader