ห้องเม่าปีกเหล็ก

วัฏจัักร ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และ ดอกเบี้ย Fed Fund Rate

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
65 views

1) ของจริงจากอดีต จนถึง ปัจจุบัน :

          1.1) เดือน มีนาคม ปี พ.ศ 2543 : Fed Fund Rate = 6.50% และ Down Jones = 11,732 จุด

                ขาลงรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดหมี เพราะ เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตราสารหนี้

          1.2) เดือน ตุลาคม ปี พ.ศ 2546 : Fed Fund Rate = 1.00% และ Down Jones = 7,717 จุด ( ฟองสบู่ดอทคอม )

               ขาขึ้นรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดกระทิง เพราะ เงินทุนไหลออกจากตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น

         1.3) เดือน มิถุนายน ปี พ.ศ 2549 : Fed Fund Rate = 5.25% และ Down Jones = 14,167 จุด ส่วน Set Index = 915 จุดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี พ.ศ 2550

                 ขาลงรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดหมี เพราะ เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตราสารหนี้

        1.4) เดือน มีนาคม ปี พ.ศ 2552 : Fed Fund Rate = 0.25%   และ Down Jones = 6,547 จุด ส่วน Set Index = 380 จุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551 ( วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ )

                ขาขึ้นรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดกระทิง เพราะ เงินทุนไหลออกจากตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น

        1.5) วันที่ 27 เมษายน  ปี พ.ศ 2561 : Fed Fund Rate = 1.75% และ Down Jones = 24,311 จุด ส่วน Set Index = 1,778 จุด

2) คาดการณ์จากปัจจุบัน จนถึง อนาคต :

        2.1) วันที่ 27 เมษายน ปี พ.ศ 2561 : Fed Fund Rate = 1.75% และ Down Jones = 24,311 จุด ส่วน Set Index = 1,778 จุด

ขาขึ้นรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดกระทิง ต่อเนื่องจากข้อ 1.5) เพราะ เงินทุนไหลออกจากตราสารหนี้มายังตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องจากข้อ 1.5)

        2.2) ต้นปี พ.ศ 2564 : Fed Fund Rate = 4.25% และ Down Jones = 50,000 จุด ส่วน Set Index = 5,000 จุด

ขาลงรอบใหญ่ หรือ สภาวะตลาดหมี เพราะ เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตราสารหนี้

         2.3) ปลายปี พ.ศ 2564 : Fed Fund Rate = 0.25% และ Down Jones = 20,000 จุด ส่วน Set Index = 1,500 จุด ( ฟองสบู่โลกแตก เนื่องจากปัญหาหนี้สินโลกที่ทนต่อสภาวะดอกเบี้ยที่สูงๆไม่ได้ )

อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องของการคาดการณ์ได้ เพราะ เป็นการนําสถิติในอดีตมาคาดการณ์อนาคตเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้โพสต์คาดการณ์ก็ได้ เพราะอะไรๆในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายจากอดีต จนอาจจะไม่สามารถนําเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมาคาดการณ์อนาคตแล้วก็ได้

หมายเหตุ : 1) Down Jones เริ่มเข้าสู่สภาวะกระทิงรอบใหญ่รอบนี้ที่ 15,988 จุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี พ.ศ 2559 หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน  ( 24,311 - 15,988 ) / 15,988 x 100 = +52.06% ในขณะที่ Set Index เริ่มเข้าสู่สภาวะกระทิงรอบใหญ่รอบนี้ที่ 1,219 จุดเมื่อวันที่  7 มกราคม ปี พ.ศ 2559 หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,778 - 1,219 ) / 1,219 x 100 = +45.85% ซึ่งเป็นเวลา 1 เดือนหลังจาก FOMC ปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate เป็นครั้งแรกจาก 0.25% เป็น 0.50% ในรอบ 9 ปีเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2558 และ สถิตินี้เป็นสถิติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งหลายหนในอดีต

                  2) สําหรับข้อแนะนําสําหรับนักลงทุนก็คือ เมื่อ Fed Fund Rate ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 4.00% ประมาณเดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2563 ให้ทําการขายหุ้นทั้งหมดออกไปโดยการล้างพอร์ตออกไปเลยแล้วถือเงินสดไว้ และ เมื่อ Fed Fund Rate อยู่ที่ระดับ 4.25% ก็ให้เตรียมตัว Short Set 50 Index Futures หรือ Set 50 Index Options อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่างได้เลย และ ตามปรกติแล้ว ในช่วงขาลงรอบใหญ่ตลาดหุ้น Down Jones และ Set Index จะปรับตัวลงก่อน ส่วน Fed Fund Rate จะปรับตัวลงตาม และ ขาลงรอบใหญ่มักจะสั้นกว่าขาขึ้นรอบใหญ่ ซึ่งขาลงรอบใหญ่อาจจะกินเวลาแค่ 1 ปีก็จบแล้ว ซึ่ง Model ต้นแบบก็คือการ Short Set 50 Index Futures หรือ Set 50 Index Options อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง ในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ 2551 เมื่อตลาดหุ้นไทยปรับลงมาจาก 915 จุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปี พ.ศ 2550 มาอยู่ที่ 380 จุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551 นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ไม่สามารถรับประกันได้อีกเหมือนกันว่า ทิศทางตลาดตามที่ผู้โพสต์คาดการณ์ดังกล่าวข้างต้นจะถูกต้อง และ กลยุทธการลงทุนตามที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอดังกล่าวข้างต้นจะถูกต้องและได้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต เช่นเดียวกัน

               3) ถ้าจะนับจากจุดตํ่าสุดเมื่อปลายปี พ.ศ 2551 - ต้นปี พ.ศ 2552  ซึ่งเป็นจุดตํ่าสุดของวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ จนถึงปัจจุบันคือ ต้นปี พ.ศ 2561

                          3.1) Down Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24,311 / 6,547  = 3.71 เท่า 

                          3.2) ตลาดหุ้นไทย    ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,778 / 380    =  4.68 เท่า


ศักดิ์