ความผันผวนในตลาดคริปโทฯ...กับ 3 เหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

เตรียมตัวกันให้ดีๆ!! ความผันผวนในตลาดคริปโทฯ...กับ 3 เหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

════════════════

สัปดาห์นี้จะเป็นหนึ่งในช่วงเวลา ที่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีกลับมาอยู่ในบรรยากาศคึกคักมากที่สุดหลังจากซบเซามานาน เนื่องจากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีเหตุการณ์มากมายที่เข้ามากระตุ้นความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล จึงมีแนวโน้มสูงที่น่าจะเกิดความผันผวนรุนแรงมากขึ้นในตลาดคริปโทฯ

.

ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามมาดูเหตุการณ์ใหญ่สามเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเจ็ดวันข้างหน้านี้

.

1.#การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum

.

การเปลี่ยนแปลงกลไกฉันทามติของ Ethereum ไปสู่ระบบ Proof-of-Stake ซึ่งเรียกกันว่าการอัปเกรด “The Merge” นั้นกำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้แล้ว เหตุการณ์นี้จะถือเป็นการสิ้นสุดยุคของกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work บนเครือข่าย Ethereum และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน

เชิงเศรษฐศาสตร์ของเหรียญหลักประจำเครือข่ายอย่าง ETH

.

ข้อมูลจากประกาศอย่างเป็นทางการของ Ethereum Foundation ซึ่งเป็นองค์กรผู้ดูแลเครือข่าย Ethereum ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการอัปเกรด The Merge ก็คือเรื่องของอัตราการผลิตเหรียญ ETH

.

ปัจจุบัน ระบบของ Ethereum ให้ผลตอบแทนจากการขุดเหรียญอยู่ที่จำนวนประมาณ 13,000 ETH ต่อวันตามอัตราของกลไกฉันทามติแบบ PoW และเมื่อ Ethereum เปลี่ยนไปใช้กลไกฉันทามติแบบ PoS แล้ว ผลตอบแทนจากการ Staking จะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ETH ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการอัปเกรด The Merge เท่ากับว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกลไกฉันทามติเพียงอย่างเดียวก็จะส่งผลให้อัตราการผลิตเหรียญ ETH ลดน้อยลงไปจากเดิมถึง 90%

.

นอกจากนี้ ในประกาศดังกล่าวยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า

.

ด้วยอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำโดยเฉลี่ยที่ 16 gwei จะส่งผลให้มีการเผาทำลายเหรียญ ETH เป็นจำนวนอย่างน้อย 1,600 ETH ต่อวัน สิ่งที่ตามมาคืออัตราการเพิ่มขึ้นสุทธิของเหรียญ ETH จะเท่ากับศูนย์หรือกระทั่งติดลบหลังการอัปเกรด The Merge แล้ว

.

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่หลายฝ่ายเรียกว่า “การ Halving (การลดอัตราของเหรียญที่ถูกผลิตออกมาใหม่ลงไปจากเดิมครึ่งหนึ่ง) แบบยกกำลังสาม” ซึ่งเป็นการหยิบยืมคำศัพท์มาใช้จากกระบวนการ Halving ของ Bitcoin แต่ก็มีมวลชนจำนวนไม่น้อยที่คาดว่าการ Halving ของ Ethereum จะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวที่เมื่อตลาดรับรู้ข้อมูลไปหมดแล้วก็จะส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกมาจนกดดันราคาของ ETH ให้ร่วงต่ำลงได้ในระยะสั้น

.

แต่ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอนคือแรงผันผวนที่จะถาโถมเข้ามา โดย ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้มีการคาดการณ์กันว่าการอัปเกรด The Merge จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 กันยายนนี้

.

2.#การประกาศตัวเลขของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือเงินเฟ้อ

.

ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาคือมาตรวัดที่ใช้สำหรับดูอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในระเทศ แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะไม่ได้คำนวณจากสินค้าทุกประเภทก็ตาม แต่ตัวเลขของดัชนีราคาผู้บริโภคมักจะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญและเป็นสาเหตุหลักของการเกิดความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาด

.

โดยนักลงทุนกำลังจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่เฟดจะประชุมดอกเบี้ยในวันที่ 21-21 ก.ย.

.

หากดูข้อมูลจากในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันจะพบว่าแทบทุกครั้งที่มีการประกาศตัวเลขของ CPI ออกมานั้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีจะลุกเป็นไฟเสมอ อย่างเช่นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ ประกาศตัวเลข CPI ของรอบเดือนกรกฎาคม ราคาของ Bitcoin ก็ดีดตัวเป็นบวกขึ้นมาในระดับ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งความเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำเมื่อมีการประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจออกมา

.

ถ้าหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงก็จะส่งผลให้มีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และทางธนาคารกลางของสหรัฐฯ ก็จะเผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามมาภายในเดือนนั้น ๆ ด้วย

.

3.#วันสุดท้ายในการทวงสิทธิ์ของเจ้าหนี้ Mt.Gox

.

คดีของ Mt.Gox ถือเป็นหนึ่งในการฟ้องร้องคดีที่โด่งดังและส่งผลกระทบมากที่สุดต่อทั้งอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Mt.Gox อย่าง Nobuaki Kobayashi ได้เผยแพร่ข้อมูลวามเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการที่บรรดาเจ้าหนี้ของอดีตศูนย์ซื้อขายคริปโทฯ ซึ่งปิดตัวลงไปแล้วอย่าง Mt.Gox ต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจ เจ้าหนี้ของ Mt.Gox มีเวลาถึงวันที่ 15 กันยายนในการส่งคำร้องขอทวงคืนเงินที่สูญหายไปจากการล้มละลายของศูนย์ซื้อขายคริปโทฯ ดังกล่าวในปี 2014

.

แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดคริปโทฯ รุนแรงมากนัก แม้จะมีกระแสข่าวลือและการคาดเดาไปต่าง ๆนานาจนไม่น่ามีอะไรเหนือความคาดหมายถ้าหากจะเกิดความโกลาหลขึ้นมาเล็กน้อยในตลาด

.

.

ที่มา : cryptopotato

https://cryptopotato.com/crypto-volatility-3-major.../