เบนจามิน เกรแฮม อาจารย์ของ วอเรน บัฟเฟต
เบนจามิน เกรแฮม นักลงทุนที่มาในสาย Fundamental คงจะคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี แต่อาจจะน้อยกว่า วอเรนจ์ บัฟเฟต ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเขา วันนี้เราจะมารู้จักบิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แห่งศตวรรษที่ 20 ท่านนี้กัน...
เกรแฮมเป็นผู้นำเสนอทฤษฏีใหม่ๆ ต่อแวดวงการลงทุนโลก โดยเฉพาะการใช้งบการเงินในการลงทุนที่ใหม่มากในสมัยนั้น ในยุคที่ทุกคนต่างมองหุ้นเป็นการเก็งกำไร นอกจากนี้ ตัวเขายังเป็นที่ปรึกษาและอาจารย์ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จที่สุดในยุคปัจจุบัน
เกรแฮมจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก่อนจะไปทำงานในวอลสตรีทร่วมสิบปี จากนั้นจึงออกมาตั้งบริษัทจัดการกองทุนของตัวเอง และได้ร่วมหุ้นกับ พอล นิวแมน ในเวลาต่อมา เกรแฮมได้ลงทุนด้วยทฤษฏีการลงทุนที่ตัวเองคิดค้นขึ้น โดยทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งสูงกว่าตลาดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เกรแฮมยังกลับไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียควบคู่ไปด้วย และได้เขียนหนังสือสองเล่ม ซึ่งโด่งดังและได้รับการยอมรับสูงมากในแวดวงการลงทุนสหรัฐฯ นั่นก็คือ “Security Analysis” หรือ “การวิเคราะห์หลักทรัพย์” และ “The Intelligent Investor” หรือ “นักลงทุนผู้ชาญฉลาด” (หนังสือเล่มสีแดงที่มีความหนาเกือบคืบได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน)
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้อ่านและประทับใจมาก จนตัดสินใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยโคลัมเบียเพื่อที่จะได้เรียนกับเกรแฮม บัฟเฟตต์เคยกล่าวไว้ว่า The Intelligent Investor จากปลายปากกาของเกรแฮม คือหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หลักที่เป็นหัวใจของทุกทฤษฏีการลงทุนของเกรแฮมก็คือ การ “ใช้เหตุผล” ในการลงทุน โดยให้ซื้อหุ้นที่ตลาดให้มูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและถือมันไปจนกว่าตลาดจะมองเห็น นอกจากนี้ เกรแฮมยังชี้ชัดอีกว่า ในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนนั้น ควรมี Margin of Safety ราคาหุ้นที่เข้าไปซื้อ ต้องต่ำกว่า “Intrinsic Value” ของบริษัท ที่สำคัญคือ นักลงทุนต้องมอง “หุ้น” เป็นส่วนหนึ่งของ “ธุรกิจ” ต้องมองภาพให้ออกว่าการ “เข้าซื้อหุ้น” คือการ “เข้าซื้อธุรกิจ” อย่ามองหุ้นแบบ “นักเก็งกำไร” คือเข้าไปซื้อหุ้นเพียงเพราะหวังว่าราคาของมันจะสูงขึ้นไป โดยไม่สนใจพื้นฐานใดๆ ไม่สนใจว่าบริษัททำธุรกิจอะไร อย่างไร
แม้หลักการลงทุนของเกรแฮม จะเป็นการเสนอการลงทุนในมิติใหม่ให้กับแวดวงการลงทุน แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นหลักที่ เข้มงวด และ จนเกินไป ทั้งยังเน้นหนักแต่ตัวเลขในงบการเงิน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนสูญเสียโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่จะเติบโตในอนาคตและทั้งพอร์ตจะมีแต่กิจการที่อิ่มตัวแล้ว
ในช่วงที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้มาทำงานกับเกรแฮม โดยลงทุนด้วยวิธีของเกรแฮมอย่างเคร่งครัด ต่อมา บัฟเฟตต์ได้พัฒนาแนวทางการลงทุนของตัวเองขึ้นมา และเอาหลักการลงทุนของเกรแฮมไปปรับใช้ โดยเน้นไปที่ คุณภาพและโอกาสในการเติบโต ของกิจการมากขึ้น มิใช่ดูแค่เพียง ตัวเลขจากงบการเงิน ซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์ก็ยังคงบอกว่า หลักการลงทุนที่เขาเอามาใช้จนร่ำรวยนั้น มาจากเกรแฮม 85%และ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ 15% ซึ่งเป็นเครื่องรับประกันถึงความยิ่งใหญ่ของ เบนจามิน เกรแฮม “บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” ได้เป็นอย่างดี
- Yoo -
อ้างอิง : เว็บไซต์ http://warrenbuffettsay.blogspot.com/ , www.thaistockvi.com , http://millionrich.blogspot.com