มาอัพเดทตลาดภาคบ่ายกันครับ

23 พฤษภาคม 2562 -- Daily Strategy : บล.คันทรี่ กรุ๊ป

Daily View

นอกจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาสแล้วปรากฎว่า วานนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศพบว่าการส่งออกที่เป็น หัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทยกว่า 65% ของเศรษฐกิจไทยยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 (-2.6%YoY) ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย (ตลาดคาด -2%YoY) ทำให้ภาพ รวมการส่งออก 4 เดือนแรกของปี 19 ติดลบราว 1.9%YoY ตามภาวะการค้าทั่วโลกที่ชะลอตัวลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและที่สำคัญมูลค่าการส่งออกหด ตัวแทบทุกประเทศมีเพียง สหรัฐ , CLMV , อินเดีย และ รัสเซีย ที่ขยายตัวโดยสิน ค้าที่ยังคงหดตัวต่อเนื่องได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ คอมพิวเตอร์และ ส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ แต่อย่างไรก็ดียังมีสินค้าที่ YTD ยังคงปรับตัวเพิ่ม ขึ้นได้ต่อเนื่อง อาทิ ไก่สดและแปรรูป เครื่องดื่ม ผักผลไม้สด และ ทูน่ากระป๋อง ดัง นั้นทำให้เรามองว่าหุ้นเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ KCE HANA แม้จะมีระดับ Valuation ที่ค่อนข้างถูกกล่าวคือซื้อขายราว 10-11x Trailing PE แต่เรากลับมองว่า ยังคงไม่ใช่จุดที่จะเข้าลงทุนเพราะอุปสงค์ทั่วโลกยังคงอ่อนแอ ส่วนแนวโน้มดัชนีวันนี้ เราประเมินว่าจะแกว่งซึมตัวลงในกรอบ 1617 - 1634 หลังวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 16.4 จุดประกอบกับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ย่อตัวราว 100 จุดหลังข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงรุนแรนต่อเนื่องหลังมีรายงานว่าทรัมป์เตรียมจัดการบ ริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดในจีนรายใหญ่ 5 รายด้วยการจำกัดการเข้าถึงตลาดและซั พพลายเออร์ของสหรัฐรวมถึงแรงกกดดันกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบ Brt ที่ร่วงลงกว่า 1.7% ในเมื่อคืนที่ผ่านมา

Daily Strategy

การแกว่งตัวซึมลงของดัชนีเรามองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้น Domestic Play ที่มีกำไรในงวด 1Q19 เติบโตโดดเด่น (CPALL COM7 HMPRO) โรงพยาบาล (BCH CHG) รวมถึงหุ้นเกี่ยวข้องกับการลงทุน (AMATA CK STEC) หุ้นที่เราคาดกำไรสุทธิยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง (CPN JKN S) พร้อมยังถือครองเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%

JKN (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 8.8 บาท) จากกรณีที่ช่องทีวีดิจิทัลหลายช่องมีการคืนคลื่น ให้กับ กสทช. แต่เราคาดผลกระทบต่อบริษัทจะค่อนข้างจำกัดเนื่องในจำนวนช่องที่มี การคืนคลื่นนั้น 1 ในนั้นคือช่อง Bright TV แต่สัดส่วนรายได้ของบริษัทจาก Bright T V นั้นมีเพียง 12% ของรายได้บริษัททั้งปีในปี 18 และบริษัทกำลังอยู่ในช่วงหาผู้ประก อบการรายอื่นเข้ามาซื้อคอนเทนต์ต่อและคาดว่าน่าจะปิดดีลกับผู้ประกอบการได้ภาย ในครึ่งปีแรกปีนี้ โดยเรายังคงคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 24% สำหรับปี 19 - 21E จากการรุกขายคอนเทนต์ในต่างประเทศ

S (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 4.2 บาท) จากการเข้าประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหารวานนี้ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในปี 19-20 จากธุรกิจอสังหาที่เริ่มโอนโค รงการแรกภายใต้ Singha Estate ตั้งแต่ช่วง 4Q18 ที่ผ่านมาและมี Backlog กว่า 1.2 หมื่นล้านบาทจากทั้งหมด 5 โครงการมูลค่ากว่า 2.1 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยโอ นต่อเนื่อง นอกจากนี้เราคาดว่าธุรกิจโรงแรมแม้กำไรใน 1Q19 จะอ่อนตัวลงตามการ ท่องเที่ยวที่อ่อนแอแต่เชื่อว่าใน 2H19 ผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวได้ตามแผนกา รเปิด 2 โรงแรมในปลายปีที่ มัลดีฟ พร้อมประเมินกำไรปกติเฉลี่ยเติบโตปีละ 144% ในช่วง 19-20E

Analyst : Sittidath Prasertrungruang

Registration No. 17618

Tel. +66 2205 7000 ext. 4400

Assistant Strategist : Vathan Jitsomnuk